
นักศึกษาหลักสูตรการสื่อสารการตลาดดิจิทัล ชั้นปีที่ 3 คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (DPU) นำเสนอแผนรณรงค์ทางการสื่อสารภายใต้หัวข้อ “การสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยทางถนน” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในรายวิชา “การสื่อสารการตลาดเพื่อสังคม” เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2568 โดยได้รับเกียรติจาก ดร.อุดม หงส์ชาติกุล ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Social Lab Thailand และเครือข่ายเป็นหูเป็นตาเพื่อสังคม พร้อมด้วย พิมพร ศิริวรรณ ทีมอาสาจากเครือข่ายเป็นหูเป็นตาเพื่อสังคม ร่วมรับฟังและให้ข้อเสนอแนะผลงานของนักศึกษา ณ ห้องประชุมไสว สุทธิพิทักษ์ อาคาร 6 มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์
ผศ.สุรางคนา ณ นคร อาจารย์ประจำวิชาการสื่อสารการตลาดเพื่อสังคม หลักสูตรการสื่อสารการตลาดดิจิทัล คณะนิเทศศาสตร์ DPU กล่าวว่า การนำเสนอแคมเปญของนักศึกษาในครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของ “เทอมโปรเจกต์” ภายใต้รายวิชาดังกล่าว ที่นักศึกษาต้องพัฒนาแผนงานจริงจากโจทย์จริง โดยทุกปีจะมีการเชิญเครือข่ายภายนอกเข้ามาร่วมออกแบบโจทย์ที่เป็นประเด็นทางสังคมร่วมสมัย ซึ่งในปีนี้ได้รับความร่วมมือจากเครือข่าย “เป็นหูเป็นตาเพื่อสังคม” ที่เข้ามาบรีฟโจทย์ตั้งแต่ต้นภาคเรียน เพื่อให้นักศึกษาได้วางแผนการรณรงค์ด้านความปลอดภัยทางถนนในมุมมองของคนรุ่นใหม่
เปิดแผนรณรงค์ ความปลอดภัยทางถนน
“แม้ประเด็นความปลอดภัยทางถนนจะเป็นปัญหาใหญ่ระดับประเทศ แต่การออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้ในครั้งนี้เปิดโอกาสให้นักศึกษาเลือกเจาะลึกประเด็นย่อยที่สนใจ และพัฒนาแคมเปญอย่างมีระบบ ผ่านกระบวนการวิจัย การกำหนดกลุ่มเป้าหมาย การวางกลยุทธ์ ไปจนถึงการนำเสนอผลงานจริงต่อผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งนอกจากจะเป็นโอกาสให้นักศึกษาได้รับคำแนะนำจากผู้มีประสบการณ์โดยตรง ยังถือเป็นเวทีที่สะท้อนศักยภาพของนักศึกษาได้อย่างแท้จริง” อาจารย์ประจำวิชาการสื่อสารการตลาดเพื่อสังคม กล่าว
เวทีในลักษณะนี้เปรียบเสมือน “ห้องปฏิบัติการทางสังคม” ที่เปิดให้นักศึกษาได้ฝึกคิด ฝึกทำ และฝึกสื่อสารกับผู้คนในสถานการณ์จริงที่ต่างจากการเรียนรู้ในห้องเรียน พบว่านักศึกษาหลายคนสามารถเชื่อมโยงแนวคิดจากแคมเปญไปสู่การปรับพฤติกรรมในชีวิตจริง เช่น การเริ่มใส่หมวกกันน็อกอย่างจริงจัง หรือการให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของเพื่อนร่วมทีม ที่สำคัญยังเปิดโอกาสให้เชื่อมโยงกับภาคสังคมและภาคธุรกิจ โดยมีหน่วยงานภายนอกแสดงความสนใจที่จะนำไอเดียไปต่อยอด รวมถึงการเชิญนักศึกษาเข้าร่วมเวทีระดับประเทศ หรือฝึกงานกับองค์กรที่ทำงานด้านความปลอดภัยทางถนน ซึ่งเป็นการขยายบทบาทของนักศึกษาออกสู่โลกจริง
ดึงศักยภาพนักศึกษา สร้างสรรค์กิจกรรมเพื่อสังคม
ผศ.สุรางคนา ระบุว่า เด็กของเรามีศักยภาพมาก เพียงแต่บางครั้งยังขาดเวทีที่เอื้อให้ได้แสดงความสามารถ เวทีแบบนี้จึงสำคัญ เพราะช่วยสร้างความมั่นใจ และปลดล็อกศักยภาพที่ซ่อนอยู่ให้ปรากฏชัดเจนขึ้น จึงอยากเห็นกิจกรรมลักษณะนี้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะไม่เพียงตอบโจทย์การเรียนการสอนในรายวิชาเท่านั้น แต่เป็นการเตรียมความพร้อมให้นักศึกษาก้าวออกไปทำงานจริง และเข้าใจบทบาทของตนเองในการเป็นพลังสร้างสรรค์เพื่อสังคม
ด้าน พิมพร ศิริวรรณ อาสาจากเครือข่าย “เป็นหูเป็นตาเพื่อสังคม” กล่าวว่า แคมเปญที่นักศึกษาแต่ละทีมออกแบบจึงมีความน่าสนใจและจับต้องได้จริง เนื้อหาที่นำเสนอมีความชัดเจน ตรงไปตรงมาและสะท้อนจากความเข้าใจที่แท้จริง ไม่ใช่เพียงแค่การทำเพื่อส่งงาน แต่เป็นสิ่งที่สามารถนำไปใช้ต่อในโลกความเป็นจริงได้ หากมีหน่วยงานหรือองค์กรที่ทำงานด้านความปลอดภัยทางถนนอยู่แล้ว ได้มาฟังสิ่งที่นักศึกษาเสนอ อาจจะสามารถนำไอเดียเหล่านี้ไปต่อยอดและนำไปใช้ได้จริง โดยเฉพาะแนวคิดของนักศึกษาเป็นสิ่งใหม่ มีความสด ความกล้า และไม่มีกรอบจำกัดใดๆ ที่มาปิดกั้นความคิดสร้างสรรค์
“สิ่งที่น่าชื่นชมอย่างมากคือ นักศึกษาทุกทีมมีความกล้าแสดงออก มีภาวะผู้นำ และยังทำงานร่วมกันเป็นทีมได้ดี ความกล้าของนักศึกษาในการหยิบยกประเด็นที่คนทั่วไปมักมองข้ามขึ้นมาพูดถึง โดยไม่กลัวว่าจะเป็นเรื่องหนักหรือเข้าถึงยาก ในขณะที่หลายครอบครัวและหลายชุมชนอาจเผชิญกับปัญหาเหล่านี้อยู่แต่ไม่เคยมีใครหยิบขึ้นมาสื่อสารอย่างจริงจัง แต่นักศึกษากลุ่มนี้กลับเลือกที่จะพูดถึงอย่างกล้าหาญ ตรงไปตรงมา และมีความตั้งใจอย่างแรงกล้าที่จะสื่อสารให้ผู้คนในสังคมได้ตระหนักร่วมกัน ซึ่งภาพรวมที่ปรากฏออกมานั้น สะท้อนถึงคุณลักษณะของบัณฑิตที่พร้อมจะออกไปทำงานจริง และพร้อมที่จะเป็นผู้นำในการเปลี่ยนแปลงสิ่งดีๆ ให้เกิดขึ้นในสังคม” อาสาจากเครือข่าย “เป็นหูเป็นตาเพื่อสังคม” กล่าว
ขณะที่ ดร.อุดม หงส์ชาติกุล ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Social Lab Thailand และเครือข่ายเป็นหูเป็นตาเพื่อสังคม กล่าวว่า รู้สึกยินดีที่ได้เห็นนักศึกษาตระหนักถึงความสำคัญของปัญหาเชิงระบบนี้ และมีความพร้อมในการเสนอแนวคิดและทางออกใหม่ๆ ที่สะท้อนมุมมองของคนรุ่นใหม่ ซึ่งเป็นสิ่งที่หาได้ยากในวงสนทนาทางนโยบายหรือการประชุมเชิงวิชาการทั่วไป ซึ่งเร็วๆ นี้ ทาง Social Lab Thailand เตรียมจัดเวทีระดมสมอง โดยเชิญนักขับเคลื่อนจากทั้งภาครัฐและเอกชนมาร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเพื่อสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยทางถนนอย่างยั่งยืน และจะได้เชิญชวนนักศึกษา DPU เข้าร่วมนำเสนอแนวคิดในเวทีดังกล่าว
“เชื่อมั่นว่า ถ้านักศึกษามีโอกาสได้นำเสนอแนวคิดในเวทีดังกล่าว จะเป็นการจุดประกายให้กับผู้ใหญ่ นักวิชาการ และผู้มีบทบาทในการขับเคลื่อนสังคม ที่อาจได้รับแรงบันดาลใจหรือมุมมองใหม่ๆ จากคนรุ่นใหม่ อีกทั้งยังเป็นประสบการณ์ที่มีคุณค่าอย่างยิ่งต่อตัวนักศึกษาเอง เพราะจะได้เรียนรู้การสื่อสารกับผู้มีบทบาทในภาคนโยบายและการปฏิบัติจริงอย่างใกล้ชิด และยังเป็นโอกาสในการขยายเครือข่ายและบทบาทของตนเองในฐานะพลเมืองที่มีส่วนร่วมในการสร้างสังคมที่ดีขึ้น” ดร.อุดม กล่าวทิ้งท้าย