นิเทศฯ DPU ปั้น Beyond Content Creator สร้างสื่อปลอดภัย สร้างรายได้ตั้งแต่วัยเรียน

15 กรกฎาคม 2568
รัชพล ธนศุทธิสกุล
  • faculty-mobile

คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (DPU) จัดกิจกรรม “Young Content Creator Day” ส่งเสริมให้นักศึกษาใหม่ระดับชั้นปีที่ 1 ได้ก้าวสู่การเป็น “Beyond Content Creator” ผู้มีความรู้ ทักษะ และจิตสำนึกในการผลิตสื่อดิจิทัลอย่างปลอดภัยและสร้างสรรค์ พร้อมเปิดโอกาสให้สร้างรายได้ตั้งแต่ยังเรียน โดยกิจกรรมนี้ได้รับการสนับสนุนจากกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ภายใต้โครงการ “ปั้นคอนเทนต์ครีเอเตอร์หน้าใหม่ สื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์” เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2568 ที่ผ่านมา ณ ห้องประชุมปรีดี พนมยงค์

ภายในงานประกอบด้วยกิจกรรมหลากหลายที่ออกแบบมาเพื่อเสริมสร้างทั้งแรงบันดาลใจและทักษะการลงมือทำจริง โดยแบ่งออกเป็น 3 ส่วนหลัก ได้แก่ การแสดงความสามารถจากชมรม CA Club, การบรรยายโดยวิทยากรชื่อดังอย่าง “พี่ฮิปโป-ฉันท์ชนะ”, “พี่จูดี้-จารุกิตติ์” และ “พี่ทราย-สก๊อต” รวมถึงการแข่งขันผลิต TikTok Short Content ชิงเงินรางวัลรวมกว่า 35,000 บาท โดยจะประกาศผลผู้ชนะในวันที่ 25 กรกฎาคม 2568 นี้

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ศิวนารถ หงษ์ประยูร คณบดี คณะนิเทศศาสตร์ DPU ประธานในพิธีกล่าวเปิดงานโดยเน้นย้ำถึงความตั้งใจของคณะในการจัดเตรียมกิจกรรมอันเข้มข้นนี้สำหรับนักศึกษาทุกคน โดยเชื่อว่าทุกคนในปัจจุบันต่างปรารถนาที่จะมีแนวทางของตนเอง และต้องการเป็นคอนเทนต์ครีเอเตอร์ที่เจาะลึกในสิ่งที่ตนเองสนใจ

คณะนิเทศฯ จึงสนับสนุนให้นักศึกษาที่มีความสนใจร่วมกันรวมกลุ่มในรูปแบบชมรม หรือที่เรียกว่า CA Club แม้จะมี 5 ชมรมหลักที่ก่อตั้งโดยรุ่นพี่เมื่อปีที่ผ่านมา คณะก็ยังเปิดโอกาสให้นักศึกษาใหม่สามารถจัดตั้งชมรมเพิ่มเติมได้ หากมีความสนใจเฉพาะทางด้านคอนเทนต์หรือการผลิตสื่อ โดยมีงบประมาณสนับสนุนกิจกรรมอย่างเต็มที่

ผศ.ศิวนารถ ยังกล่าวถึงกิจกรรม Personalize Activity ที่จัดขึ้นตลอดทั้งปีเพื่อตอบสนองความต้องการของนักศึกษาแต่ละบุคคล โดยเน้นว่า “เราเชื่อว่าทุกคนมีเรื่องที่ตัวเองสนใจเป็นพิเศษ เพราะฉะนั้น Personalize Activity ของเราที่อยากจะจัดกิจกรรมให้ตามความต้องการของทุกคน ไม่ว่าจะเล็กน้อยแค่ไหน 5 คน 10 คน ขอให้สนใจ คณะก็พร้อมสนับสนุนและจัดกิจกรรมให้” พร้อมเสริมว่า การเรียนรู้ที่แท้จริงต้องเกิดจากความสมัครใจและความสนใจของนักศึกษาเอง เพราะสิ่งนั้นคือพลังที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตพวกเขาได้อย่างแท้จริง

กิจกรรม Young Content Creator Day จึงเป็นหนึ่งในกิจกรรมสำคัญที่คณะได้เตรียมมาอย่างมุ่งมั่น เพื่อสร้างแรงบันดาลใจและมอบแนวคิดให้นักศึกษาเติบโตในสายงานต่างๆ โดยการเชิญวิทยากรผู้มีชื่อเสียงมาร่วมพูดคุยนั้น มีจุดประสงค์ให้นักศึกษาได้ค้นพบตนเอง และมองเห็นภาพอนาคตในอีก 4 ปีข้างหน้า ณ คณะนิเทศศาสตร์ DPU

ด้าน อาจารย์วรพงษ์ ปลอดมูสิก รองคณบดีฝ่ายกิจการนักศึกษา คณะนิเทศศาสตร์ DPU และผู้ดูแลกิจกรรม ให้ข้อมูลว่า โครงการนี้เริ่มต้นในช่วงกิจกรรมปรับพื้นฐานก่อนเปิดภาคเรียน เพื่อให้นักศึกษาใหม่ได้ฝึกฝนทักษะและเตรียมความพร้อมสู่การเป็น ‘Beyond Content Creator’ ก่อนเข้าสู่การเรียนการสอนจริง โดยมุ่งพัฒนาทักษะการผลิตสื่อดิจิทัลทั้งในด้านเนื้อหา เทคนิค และจริยธรรม

อาจารย์วรพงษ์ ยังเสริมความสำคัญของโครงการนี้ว่า ในยุคดิจิทัลที่เด็กและเยาวชนเข้าถึงสื่อออนไลน์ได้อย่างรวดเร็ว แต่สื่อบางส่วนยังขาดความปลอดภัย ความรับผิดชอบ และแนวคิดสร้างสรรค์ ซึ่งส่งผลกระทบในวงกว้าง ดังนั้นโครงการนี้จึงมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อส่งเสริมความเข้าใจในสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ สร้างเครือข่ายเยาวชนผู้ผลิตสื่อที่มีแนวคิดเชิงบวก และเปิดโอกาสให้นักศึกษาได้ฝึกปฏิบัติพร้อมเผยแพร่ผลงานจริง เพื่อสร้างพื้นที่การเรียนรู้และการเติบโตสำหรับเยาวชนที่มีศักยภาพ

• “ทุกอย่างในชีวิตเป็นคอนเทนต์ได้ เพียงแค่กล้าที่จะถ่ายทอดความเป็นตัวเอง”

สำหรับในช่วงบรรยายสร้างแรงบันดาลใจเริ่มต้นที่ “พี่ฮิปโป-ฉันท์ชนะ” อดีตศิษย์เก่าคณะนิเทศศาสตร์ DPU ซึ่งปัจจุบันเป็นครีเอทีฟรายการทีวี อินฟลูเอนเซอร์ และนักแสดง ชื่อดัง ได้เน้นย้ำความสำคัญของการ “ลงมือทำ” ทันที โดยกล่าวว่า “ทุกคนไม่ได้เริ่มจากความมั่นใจ ไม่ได้มาพร้อมกับความมั่นใจ ทุกคนเริ่มจากศูนย์เท่ากันหมด” พร้อมเตือนให้นักศึกษา “อย่าแคร์คำด่า” เพราะคนที่ด่าคือ “แฟนคลับที่รับชม”

นอกจากนี้ พี่ฮิปโปยังแนะนำให้ทำคอนเทนต์ที่หลากหลายเพื่อค้นหาสิ่งที่ตนเองชอบและถนัดที่สุด โดยยกตัวอย่าง “การกิน” ซึ่งเป็นคอนเทนต์ที่ทำง่ายและได้รับความนิยม พี่ฮิปโปเชื่อว่าทุกสิ่งในชีวิตสามารถเป็นคอนเทนต์ได้ เพียงแค่กล้าที่จะทำและถ่ายทอดความเป็นตัวเอง สำหรับการรับมือกับความกดดันและภาวะหมดไฟ พี่ฮิปโปกล่าวว่า “นอนตื่นมาก็วันใหม่ ทุกอย่างใหม่ รีเซ็ต” และบางครั้งก็ต้องไม่สนใจไปบ้าง ซึ่งเป็นแนวคิดที่เรียบง่ายแต่ทรงพลังในการก้าวข้ามอุปสรรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ด้วยแนวคิดที่ยึดมั่นในความจริงใจ ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค และกล้าที่จะเป็นตัวของตัวเองอย่างแท้จริง พี่ฮิปโปเชื่อมั่นว่าคอนเทนต์ครีเอเตอร์ทุกคนจะสามารถสร้างสรรค์ผลงานที่สะท้อนตัวตนและประสบความสำเร็จในเส้นทางที่ตนรักได้อย่างยั่งยืน

• “มีความสุขกับสิ่งที่ทำและเป็นตัวของตัวเอง”

ต่อมา “พี่จูดี้-จารุกิตติ์” ซึ่งเป็นที่รู้จักจากการทำคอนเทนต์ “ครัวจูดี้” ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการเป็น “ตัวของตัวเอง” และการมี “คาแรคเตอร์” ที่โดดเด่นในการทำคอนเทนต์ โดยกล่าวอย่างชัดเจนว่า “การจะมาเป็นคอนเทนต์ครีเอเตอร์ต้องเป็นตัวของตัวเอง เป็นตัวของตัวเองขนาดที่ว่าตื่นมาแล้วมีความสุขจะทำ ถ้าไม่มีข้อนี้ ควรเลิกเป็น แล้วไปหาเส้นทางใหม่จะดีกว่า”

พี่จูดี้ยังเตือนว่าสิ่งสำคัญคือ ไม่ควรกลัวคำวิพากษ์วิจารณ์ เพราะความคิดเห็นเชิงลบในโซเชียลมีเดียนั้นสร้างขึ้นโดยผู้ชม และหากไม่เป็นความจริง ก็ไม่จำเป็นต้องเก็บมาบั่นทอนกำลังใจ นอกจากนี้ยังชี้มุมต่างของคนในยุคปัจจุบัน โดยเฉพาะ Gen Z ที่มีรูปแบบการสื่อสารที่สั้นและกระชับ ซึ่งอาจดูไม่สุภาพในสายตาผู้ใหญ่ แต่เป็นเพียงการสื่อสารที่รวดเร็ว อย่างไรก็ตามยังคงต้องเลือกใช้ภาษาให้เหมาะสมกับสถานการณ์และผู้รับสารเสมอ เช่น ใช้ภาษาสุภาพกับอาจารย์ เป็นต้น

สำหรับคำแนะนำเพิ่มเติม พี่จูดี้เน้นย้ำความสำคัญของการ “กล้าที่จะทำ” และไม่รอโอกาส เชื่อว่าทุกคนเริ่มต้นจากศูนย์เท่ากัน ไม่ต้องเปรียบเทียบกับใคร ควรลองทำหลายๆ อย่างเพื่อค้นหาสิ่งที่ชอบและถนัดที่สุด แม้คอนเทนต์ไม่ได้รับความสนใจในตอนแรก ก็ควรลองทำต่อไป โดยเน้นว่าคอนเทนต์ที่สร้างขึ้นควรเป็นไปในเชิงสร้างสรรค์และไม่เป็นพิษต่อสังคม และการยึดมั่นในสิ่งที่เราชอบและรัก จะนำมาซึ่งผู้ติดตามในที่สุด

• “ความรู้สึกที่เปิดเผยนั้นมีพลังมากที่สุด”

ขณะที่ “พี่ทราย-สก๊อต” นักอนุรักษ์ทะเลเจ้าของฉายา “มนุษย์เงือก” ได้สร้างแรงบันดาลใจด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม พี่ทรายเน้นย้ำว่า “การลงมือทำจริงทำให้ได้เรียนรู้และเข้าใจปัญหาด้วยตนเอง” โดยไม่ต้องพึ่งพาข้อมูลจากผู้อื่น พร้อมกันนี้พี่ทรายยังกล่าวถึงความสำคัญของการถ่ายทอดความรู้สึกที่จริงใจผ่านสื่อ เพราะความรู้สึกที่เปิดเผยนั้นมีพลังมากที่สุดในการเข้าถึงใจผู้คนและสร้างการเปลี่ยนแปลง พี่ทรายเชื่อว่า “ทุกเสียงมีความสำคัญ” และทุกคนสามารถเป็น “มนุษย์ที่มีคุณภาพ” ได้ด้วยการช่วยเหลือผู้อื่นเมื่อเห็นปัญหา

พี่ทราย ยังกล่าวถึงวิธีการรับมือกับความท้อแท้หรือคำวิจารณ์ โดยให้ปรึกษาคนที่ไว้ใจ และหากรู้สึกว่าสิ่งที่ทำนั้นถูกต้องแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องลังเล พร้อมกับแนะนำให้นักศึกษาคัดกรองคนที่ไม่ส่งเสริมพลังงานที่ดีออกจากชีวิต เพราะ “การตัดคนออกง่ายกว่าการเยียวยาบาดแผลจากคำพูดที่ไม่ดี”

นอกจากนี้ พี่ทรายยังให้ข้อคิดในการค้นหาตัวตนและเป้าหมายในชีวิตว่า หากต้องการรู้ว่าเราเกิดมาเพื่อทำอะไร ให้สังเกตสองสิ่ง คือ 1.อะไรที่ทำแล้วมีความสุข ซึ่งจะทำให้เราทำสิ่งนั้นได้ตลอดโดยไม่เหนื่อย และ 2.อะไรคือสิ่งที่เราเก่งโดยธรรมชาติ โดยไม่จำเป็นต้องมีใครมาสอน การสังเกตสิ่งเหล่านี้จะช่วยให้เราวิเคราะห์และค้นพบเส้นทางที่เหมาะสมกับตนเองได้มากยิ่งขึ้น

ภายในงานบรรยากาศตลอดทั้งวันยังเต็มไปด้วยพลังและความกระตือรือร้นของนักศึกษา ในการพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และการลงมือแก้ไขผลงานทันทีหลังได้รับคำแนะนำจากวิทยากรในระหว่างกิจกรรม โดยได้รับความสนับสนุนอย่างใกล้ชิดจาก “Editor Cafe” ซึ่งจัดโดยทีมงาน Nitade Creator Center DPU ที่ขนทัพเจ้าหน้าที่มาพร้อมให้คำปรึกษาและตอบข้อสงสัยด้านเทคนิคการตัดต่อคลิปอย่างใกล้ชิด

อาจารย์สิญาทิพย์ เพี้ยนภักตร์ รองคณบดี คณะนิเทศศาสตร์ DPU กล่าวเสริมถึงเป้าหมายสำคัญของโครงการนี้คือ การมุ่งส่งเสริมให้นักศึกษาสามารถสร้างรายได้จากการทำคอนเทนต์ได้ตั้งแต่ปี 1 ซึ่งเป็นไปตามแนวคิดของคณะฯ ที่ต้องการกระตุ้นให้นักศึกษาเห็นช่องทางสร้างรายได้ก่อนเปิดภาคเรียนจริง โดยโครงการนี้ได้รับการสนับสนุนจากกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ โดยมีเงินรางวัลรวมกว่า 35,000 บาท ซึ่งเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าผลงานที่ดีสามารถสร้างรายได้ได้จริง

ส่วน ผู้ช่วยศาสตราจารย์ยุทธนา บุญอาชาทอง หัวหน้าหลักสูตรการสื่อสารการแสดงดิจิทัล คณะนิเทศศาสตร์ DPU กล่าวเสริมถึงแนวคิดสำคัญของโครงการว่า การให้นักศึกษาได้ลองลงมือทำก่อนเรียนทฤษฎีในห้องเรียน จะช่วยให้เข้าใจปัญหาและสามารถประยุกต์ใช้ความรู้ได้จริงในสถานการณ์ที่หลากหลาย พร้อมเชื่อว่า “การได้ลองผิดลองถูกในพื้นที่ปลอดภัยเช่นนี้ จะช่วยให้นักศึกษากล้าคิด กล้าทำ และกล้าเติบโต”

ผศ.ยุทธนา ยังเน้นย้ำถึง การให้อิสระทางความคิดแก่นักศึกษาในการสร้างสรรค์คอนเทนต์ โดยครูอาจารย์จะเป็นเพียงผู้ให้คำแนะนำและสนับสนุนให้นักศึกษาได้ลองใช้อุปกรณ์และสถานที่อย่างเต็มที่ สิ่งนี้สอดคล้องกับแนวคิด Personalize Activity ของคณบดีที่เน้นคุณภาพและการเรียนรู้ที่ตอบโจทย์ความสนใจเฉพาะบุคคลได้เป็นอย่างดี

สำหรับเสียงสะท้อนของนักศึกษาที่เข้าร่วมกิจกรรม “เต้ย-อภิสิทธิ์ ด้วงทองกุล” นักร้องและศิลปินภูไท นักศึกษาใหม่ DPU เปิดเผยว่า รู้สึกประทับใจกับกิจกรรมในวันนี้เป็นอย่างมาก เพราะแม้จะมีประสบการณ์ในวงการบันเทิงอยู่แล้ว แต่ก็ยังต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเพื่อพัฒนาตนเองให้ไปได้ไกลยิ่งขึ้น การได้ฟังเทคนิคจากวิทยากรผู้ประสบความสำเร็จในวงการนั้นเปรียบเสมือน ‘ทางลัด’ ที่ช่วยเปิดโลกและเติมเต็มความรู้ได้อย่างรวดเร็ว

น้องเต้ย ยังรู้สึกตื่นเต้นและเชื่อมั่นว่า การเรียนรู้และพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่องเช่นนี้ เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในยุคที่ทุกสิ่งเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและท้าทาย พร้อมย้ำว่าการเรียนรู้แบบลงมือทำจริงคือสิ่งที่ตอบโจทย์ยุคนี้มากที่สุด

“การที่เราเริ่มต้นเร็ว เราก็เข้าใจปัญหากับอุปสรรคได้ไว สามารถแก้ไขได้ทันท่วงที และนำไปสู่ความสำเร็จที่รวดเร็วขึ้น” ดาวรุ่งหมอลำ กล่าวทิ้งท้าย