เปิดประตูฟ้า...จากรั้วมหาวิทยาลัย DPU ผนึก Thai VietJet Air ตั้งศูนย์ฝึก B737 ปั้นลูกเรือมืออาชีพด้วยอุปกรณ์จริง

15 พฤษภาคม 2568
รัชพล ธนศุทธิสกุล

เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2568 มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (DPU) ได้ลงนามข้อตกลงความร่วมมือทางธุรกิจ (Business Agreement) กับสายการบิน Thai VietJet Air เพื่อจัดตั้ง “ศูนย์ฝึกอบรมประตูเครื่องบิน B737 (B737 Door Training Simulator Center)” ภายในมหาวิทยาลัย เพื่อติดตั้งเครื่องฝึกจำลองประตู (Door Simulator) ที่ใช้ในการฝึกอบรมลูกเรือและนักศึกษา เป็นการยกระดับการเรียนรู้เชิงปฏิบัติให้แก่นักศึกษาสาขาธุรกิจการบินของมหาวิทยาลัย อีกทั้งสร้างความร่วมมือระยะยาวกับสายการบินชั้นนำ สนับสนุนการผลิตบุคลากรคุณภาพ ตลอดจนแบ่งปันผลประโยชน์ทางธุรกิจ ภายใต้กรอบการลงทุนร่วมของทั้งสององค์กร โดยมีผู้บริหารจากทั้งสองฝ่ายเข้าร่วมพิธีลงนาม ณ วิทยาลัยการพัฒนาและฝึกอบรมด้านการบิน (CADT) มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์

อาจารย์ปวรรัตน์ สุภิมารส รักษาการคณบดีวิทยาลัยการพัฒนาและฝึกอบรมด้านการบิน เปิดเผยว่า ความร่วมมือในครั้งนี้สืบเนื่องจากการลงนาม MOU ด้านวิชาการก่อนหน้านี้ ที่มุ่งเน้นการส่งเสริมความร่วมมือด้านวิชาการ เช่น การส่งนักศึกษาเข้าร่วมสหกิจศึกษาในองค์กรจริง โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมการบิน ซึ่งความร่วมมือได้พัฒนาอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่ง Thai VietJet Air ซึ่งอยู่ระหว่างการขยายฝูงบินและเพิ่มบุคลากรด้านลูกเรือ มองเห็นศักยภาพของ DPU ในการเป็นศูนย์ฝึกอบรมระดับมืออาชีพ

“เรามีศูนย์ฝึกและสิ่งอำนวยความสะดวกที่พร้อมรองรับการฝึกอบรมลูกเรือในทุกมิติ การมีอุปกรณ์สำคัญคือประตูจำลองของเครื่องบิน จะเพิ่มความครบครัน ซึ่งครั้งนี้ Thai VietJet Air จะเป็นผู้ลงทุนติดตั้ง ‘Door Trainer’ สำหรับเครื่องบินรุ่น Boeing 737 เพื่อใช้ฝึกอบรมทั้งบุคลากรของสายการบินและนักศึกษาในสาขาธุรกิจการบินของวิทยาลัยฯ” อาจารย์ปวรรัตน์ กล่าว

อาจารย์ปวรรัตน์ยังเปิดเผยอีกว่า เครื่องจำลองประตู B737 นี้สามารถจำลองสถานการณ์จริงในกรณีฉุกเฉินและต้องทำการอพยพผู้โดยสาร หรือเหตุขัดข้องระหว่างบิน ซึ่งลูกเรือจำเป็นต้องเรียนรู้ทั้งการตรวจเช็กความพร้อมของประตู การเปิดประตูอย่างถูกต้อง การสื่อสารควบคุมผู้โดยสาร และการใช้อุปกรณ์นิรภัย โดยการฝึกอบรมเหล่านี้ถือเป็นข้อกำหนดสำคัญตามมาตรฐานสากลที่ลูกเรือจะต้องผ่านการอบรม และต้องกลับมาเข้ารับการฝึกทุกปี

“ไม่ใช่แค่การเปิดประตูเท่านั้น แต่เป็นการเรียนรู้การประเมินสถานการณ์ และวิธี ‘สั่งการและควบคุม’ ผู้โดยสารในสถานการณ์วิกฤต ที่ต้องอพยพให้เร็วและปลอดภัยที่สุด ซึ่งในภาคเรียน นักศึกษาชั้นปีที่ 3 ของเรา จะได้เรียนวิชาด้านความปลอดภัยบนเที่ยวบินควบคู่ไปกับวิชาด้านการบริการ ซึ่งจะทำให้เข้าใจบทบาทของลูกเรืออย่างครบถ้วน ทั้งมิติของการบริการและความปลอดภัย” อาจารย์ปวรรัตน์ระบุ

นอกจากนี้ รักษาการคณบดีวิทยาลัยการพัฒนาและฝึกอบรมด้านการบินกล่าวเพิ่มเติมว่า ที่ผ่านมาอุปกรณ์ฝึกอบรมประเภทนี้มักอยู่ในศูนย์ฝึกของสายการบินเท่านั้น ซึ่งการเข้าถึงสำหรับนักศึกษานั้นมีข้อจำกัด การติดตั้ง Door Trainer ภายในมหาวิทยาลัย จึงถือเป็นความก้าวหน้าครั้งสำคัญที่เปิดโอกาสให้นักศึกษาได้ฝึกจากอุปกรณ์จริง เพิ่มความเข้าใจและความมั่นใจในการเข้าสู่สายอาชีพ เพราะสิ่งนี้ไม่เพียงแต่จะสร้างภาพจำที่ชัดเจนให้กับนักศึกษา แต่ยังเป็นแรงบันดาลใจที่ทำให้เขาเห็นเส้นทางอาชีพได้อย่างเป็นรูปธรรม และพร้อมเข้าสู่อุตสาหกรรมการบินด้วยความเข้าใจและประสบการณ์ที่ถูกต้อง

ทั้งนี้ โครงการศูนย์ฝึกประตูเครื่องบิน B737 นี้เป็นก้าวที่สองของความร่วมมือระหว่าง DPU กับ Thai VietJet Air โดยมีเป้าหมายระยะยาวในการส่งเสริมให้นักศึกษาได้เข้าสู่ตลาดแรงงานด้านการบินอย่างมีคุณภาพ ทั้งในสายงานลูกเรือ งานภาคพื้น และงานสนับสนุนอื่นๆ ในอุตสาหกรรม โดยภายใต้กรอบความร่วมมือดังกล่าว จะมีการดำเนินการในรูปแบบการลงทุนร่วม (Co-investment) และการบริหารศูนย์ฝึกร่วมกันระหว่างมหาวิทยาลัยกับสายการบิน

ด้านกัปตันวรทรรศน์ พิงสุวรรณ ผู้อำนวยการฝ่ายฝึกอบรม สายการบินไทยเวียตเจ็ทแอร์ เปิดเผยถึงความร่วมมือทางวิชาการระหว่างสายการบินไทยเวียตเจ็ทแอร์ กับมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (DPU) ว่าเป็นการยกระดับการฝึกอบรมด้านการบิน โดยเฉพาะในมิติของการฝึกปฏิบัติจริงผ่านอุปกรณ์ที่ได้มาตรฐานระดับสากล ทั้งนี้ ไทยเวียตเจ็ทได้ทำบันทึกความร่วมมือ (MoU) กับมหาวิทยาลัยฯ เพื่อนำ “ประตูจำลองของเครื่องบิน Boeing 737 MAX” ซึ่งเป็นเครื่องบินรุ่นใหม่ล่าสุด มาติดตั้งภายในพื้นที่ของ DPU สำหรับใช้ในการฝึกอบรมทั้งนักศึกษาของมหาวิทยาลัย และลูกเรือของสายการบิน

“ไทยเวียตเจ็ทมีแผนจะนำเครื่องบินรุ่น 737 MAX ซึ่งเป็นเครื่องรุ่นใหม่เข้าประจำฝูงบิน และเราเห็นว่าในภูมิภาคนี้ยังไม่มีหน่วยงานใดติดตั้งประตูฝึกอบรมเฉพาะรุ่นนี้อย่างเป็นระบบ เราจึงเล็งเห็นศักยภาพของ DPU ในการเป็นศูนย์ฝึกอบรมที่สามารถรองรับการฝึกแบบมืออาชีพได้” กัปตันวรทรรศน์กล่าว

นอกจากนี้ กัปตันวรทรรศน์ยังกล่าวอีกว่า การนำประตูฝึกของเครื่องบิน 737 MAX มาติดตั้งที่ DPU ถือเป็นความก้าวหน้าครั้งสำคัญ เพราะอุปกรณ์ดังกล่าวสามารถจำลองการเปิด-ปิดประตูได้เหมือนจริงทุกขั้นตอน รองรับการฝึกปฏิบัติในสถานการณ์ฉุกเฉิน เช่น การอพยพผู้โดยสาร ซึ่งเป็นทักษะที่สำคัญของลูกเรือทุกคน

“ก่อนหน้านี้หลายสถาบันอาจฝึกในรูปแบบจำลอง หรือใช้เพียงภาพทฤษฎี แต่ในครั้งนี้นักศึกษาจะได้สัมผัสอุปกรณ์จริงแบบเดียวกับที่ลูกเรือใช้ทำงาน ทำให้เข้าใจระบบ กลไก และมาตรฐานความปลอดภัยที่แท้จริง โดยเฉพาะในกรณีฉุกเฉินที่ต้องใช้งานสไลด์หนีภัย หรือประเมินสถานการณ์เฉพาะหน้า” กัปตันวรทรรศน์อธิบาย

ผู้อำนวยการฝ่ายฝึกอบรม สายการบินไทยเวียตเจ็ทแอร์ ยังระบุอีกว่า โดยปกติแล้วอุปกรณ์ฝึกอบรมในลักษณะนี้จะติดตั้งอยู่ในพื้นที่เฉพาะของสายการบิน ซึ่งบุคคลภายนอกหรือสถาบันการศึกษาเข้าถึงได้ยาก การนำอุปกรณ์มาวางไว้ในพื้นที่ของมหาวิทยาลัยจึงเป็นการเปิดโอกาสให้นักศึกษาได้เรียนรู้จากของจริง และเห็นภาพที่ชัดเจนของอาชีพในอนาคต

นอกจากอุปกรณ์ฝึกการเปิดประตูแล้ว ไทยเวียตเจ็ทยังวางแผนระยะยาวร่วมกับ DPU ในการขยายความร่วมมือไปสู่การฝึกอบรมอื่นๆ พร้อมย้ำว่า การจัดฝึกอบรมทั้งหมดจะอยู่ภายใต้การรับรองของ CAAT เพื่อให้มั่นใจได้ว่า บุคลากรที่ผ่านการฝึกจากศูนย์ฝึกของ DPU จะมีคุณภาพและมาตรฐานเทียบเท่าระดับสากล พร้อมเข้าสู่อุตสาหกรรมการบินได้อย่างมั่นใจ อีกทั้งนักศึกษาที่ได้สัมผัสอุปกรณ์จริงและเข้าใจขั้นตอนต่างๆ ด้วยตนเอง จะมองเห็นภาพของงานในอนาคตได้ชัดเจนยิ่งขึ้น และเสริมสร้างแรงบันดาลใจให้ก้าวสู่สายอาชีพด้านการบินด้วยความเข้าใจอย่างแท้จริงและยั่งยืน