
ในโลกของแฟชั่น การเริ่มต้นไม่ได้จำกัดอยู่แค่คนที่มีพรสวรรค์หรือพื้นฐานแน่นมาตั้งแต่ต้น เพราะสิ่งที่มีค่ากว่าคือ “โอกาส” และ “ระบบการเรียนรู้ที่เข้าใจศักยภาพของผู้เรียน” ด้วยแนวคิด Zero to Hero ที่มุ่งพัฒนานักศึกษาจากผู้ไม่มีพื้นฐาน ให้สามารถก้าวขึ้นสู่ความเป็นมืออาชีพได้อย่างมั่นใจ
หลักสูตรการออกแบบเชิงสร้างสรรค์ สาขาวิชาการออกแบบและธุรกิจแฟชั่น คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (DPU) จึงถูกออกแบบมาเพื่อบ่มเพาะความคิดสร้างสรรค์ควบคู่ไปกับทักษะธุรกิจแฟชั่นอย่างรอบด้าน ที่นี่ไม่ได้แค่สอนให้นักศึกษาออกแบบเป็น แต่สอนให้พวกเขา “เป็นนักออกแบบที่เข้าใจโลกแห่งความจริง” ทั้งด้านการผลิต การตลาด การสร้างแบรนด์ และการใช้เทคโนโลยีมาสนับสนุนงานสร้างสรรค์ได้อย่างสมบูรณ์
เมื่อการเรียนรู้ไม่ได้หยุดอยู่แค่ในห้องเรียน แต่เปิดโอกาสให้นักศึกษาลงมือทำจริงตลอดเส้นทางการศึกษาได้ปรากฏเป็นรูปร่างชัดเจนผ่านความสำเร็จของศิษย์เก่าจำนวนมากและหนึ่งในนั้นคือ “แม็ค” นายสหรัฐ ภูหัดสวน ผู้ที่เคยเป็นเพียงเด็กชายผู้ชอบวาดการ์ตูน แต่ด้วยความตั้งใจ ความพยายาม และการเรียนรู้ที่เป็นระบบ จนสามารถก้าวขึ้นมาเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเวทีนางงามระดับประเทศ สร้างสรรค์ผลงานตั้งแต่ชุดว่ายน้ำ ไปจนถึง “มงกุฎแห่งปี” บนเวที Miss Grand Thailand 2025 ด้วยมุมมองการออกแบบที่ลึกซึ้ง มีแนวคิดเฉพาะตัว และลงมือทำทุกขั้นตอนด้วยตนเอง
ศิลปะคือ หัวใจตั้งแต่วัยเยาว์
แม็ค เล่าย้อนถึงจุดเริ่มต้นในอาชีพที่ตนเองรักว่า ตนเริ่มหลงใหลในการวาดภาพตั้งแต่เรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษา ชอบวาดรูป วาดการ์ตูน ซึ่งจะใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการขีดเขียนสิ่งที่อยู่ในจินตนาการลงบนกระดาษ ที่รู้สึกว่าเป็นกิจกรรมที่ทำให้ตนเองมีความสุข ซึ่งในช่วงที่เรียนได้เข้าร่วมชมรมศิลปะของโรงเรียนและลงประกวดผลงานในเวทีต่าง ๆ อยู่เสมอ และได้รับรางวัลกลับมาอย่างต่อเนื่อง ความสำเร็จเล็ก ๆ เหล่านี้ค่อย ๆ ทำให้ตนเริ่มตระหนักว่า “การวาดภาพ” อาจเป็นหนึ่งในจุดแข็งของตัวเอง และยิ่งได้วาดมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งสนุกมากขึ้นเท่านั้น มันเป็นสิ่งที่ไม่เคยรู้สึกเบื่อเลยแม้แต่ครั้งเดียว
“วันหนึ่งผมเริ่มสนใจในเรื่องแฟชั่น เพราะรู้สึกว่าเสื้อผ้าเป็นสิ่งที่เกี่ยวข้องกับชีวิตคนทุกวัน เป็นหนึ่งในปัจจัยสี่ที่มนุษย์ต้องใช้ ผมจึงมองว่า ถ้าเรานำความคิดสร้างสรรค์มาผสมผสานกับแฟชั่นได้ ก็น่าจะเป็นอาชีพที่ไปได้ไกล ผมเลือกเรียนต่อในหลักสูตร “การออกแบบและธุรกิจแฟชั่น” คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ เพราะที่นี่ไม่เพียงสอนให้ออกแบบได้อย่างสวยงาม แต่ยังสอนให้เข้าใจโลกธุรกิจแฟชั่นจริง ๆ ตั้งแต่แนวคิดสร้างแบรนด์ การผลิตสินค้า การตลาด ไปจนถึงการใช้เทคโนโลยีเป็นเครื่องมือในการขับเคลื่อนความคิดสร้างสรรค์ให้กลายเป็นผลงานที่จับต้องได้ ที่นี่คือจุดเริ่มต้นของการเดินทางสู่โลกแฟชั่น”
เรียนรู้แฟชั่นผ่านประสบการณ์จริง
ในรั้ว DPU “แม็ค” ได้มีโอกาสเรียนรู้มากกว่าทฤษฎี เขาได้ลงมือทำเสื้อผ้าจริง เรียนรู้กระบวนการผลิตจริง ทั้งการสเก็ตช์ ออกแบบแพทเทิร์น ตัด เย็บ ตลอดจนเข้าใจหลักการวางแผนธุรกิจ การตั้งราคาสินค้า การวางแบรนด์ และกลยุทธ์การสื่อสารทางการตลาด ทั้งหมดล้วนเป็นพื้นฐานสำคัญให้สามารถต่อยอดสู่งานออกแบบเชิงพาณิชย์ได้จริง โดยเขาเคยออกแบบชุดแนว Street Luxury เช่น กางเกงยีนส์ปักเลื่อม เสื้อผ้าที่มีลวดลายเฉพาะตัว โดยมีการเปิดพรีออเดอร์และมีลูกค้าให้ความสนใจ จนถึงขั้นมีนางงามติดต่อขอยืมชุดไปใส่ในงานสำคัญ
“ช่วงที่ทำธีสิสเป็นช่วงที่โควิด-19 ระบาดหนัก งานโชว์ผลงานนักศึกษาไม่สามารถจัดขึ้นได้ ผมจึงเลือกนำผลงานที่ตั้งใจออกแบบอย่างสุดฝีมือไปลงใน Facebook ส่วนตัว ก็ได้รับเสียงตอบรับอย่างดี นางงามและพี่เลี้ยงในวงการต่างให้ความสนใจ หลายคนเข้ามาขอยืมชุดไปใส่ถ่ายแบบ พร้อมชื่นชมว่า ชุดของแม็คแปลกใหม่ มีเอกลักษณ์ ไม่เคยเห็นบนเวทีไทยมาก่อน ซึ่งนั่นกลายเป็นแรงผลักดันมหาศาลที่ทำให้ผมเชื่อมั่นในฝีมือตัวเอง”
ตลอดระยะเวลาที่เรียนในมหาวิทยาลัย “แม็ค”เป็นนักศึกษาที่มีความตั้งใจและรับผิดชอบสูง เขาให้ความสำคัญกับการเรียน ไม่เข้าใจตรงไหนจะไม่ปล่อยผ่าน แต่เลือกที่จะเดินเข้าไปถามอาจารย์ทันที เพื่อให้เข้าใจเนื้อหาอย่างลึกซึ้ง เขาไม่เรียนเพียงเพื่อสอบผ่าน แต่เรียนเพื่อเป็นนักออกแบบแฟชั่นในอนาคต และด้วยนิสัยการ “ลงมือทำทันที” เมื่อได้รับมอบหมายงาน เขาจะจัดตารางเวลาให้ชัดเจน และรีบทำให้เสร็จก่อนกำหนดเสมอ หลายครั้งเขาทำผลงานเกินโจทย์ที่ได้รับเพื่อให้ตัวเองมีตัวเลือกงานที่ดีที่สุด
ศิษย์เก่าคณะศิลปกรรมศาสตร์ DPU กล่าวต่อว่า นอกจากตั้งใจเรียนในห้องแล้ว ยังใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ ด้วยการรับจ้างออกแบบเสื้อผ้า ทำแพทเทิร์น สเก็ตช์แบบ และเย็บชุดให้เพื่อน ๆ ในวิชาต่าง ๆ ซึ่งกลายเป็นอีกหนึ่งวิธีฝึกฝีมือของตนเองให้พัฒนาอย่างต่อเนื่อง นอกจากได้ทักษะและประสบการณ์จริงแล้ว ยังเป็นการช่วยเหลือเพื่อนที่ทำไม่เป็นหรือไม่ถนัด เพราะอยากให้เพื่อนเรียนจบไปด้วยกัน ซึ่งจากความพยายามดังกล่าวสามารถเรียนจบด้วย เกียรตินิยมอันดับ 2 พร้อมคะแนนเฉลี่ยที่เฉียดฉิวกับเกียรตินิยมอันดับ 1 เพียงเล็กน้อย
เริ่มต้นเส้นทางอาชีพ สู่งานดีไซน์เต็มตัว
“แม็ค” เริ่มต้นงานแรกในสายพัฒนาสินค้าให้แบรนด์กีฬา เช่น Nike และ Adidas ซึ่งเป็นงานเกี่ยวกับนวัตกรรมสิ่งทอ เขาได้เรียนรู้โครงสร้างผ้า เส้นใย เส้นด้าย และนวัตกรรมผ้าอย่างลึกซึ้ง ซึ่งเป็นพื้นฐานที่ต่อยอดไปสู่การออกแบบที่เข้าใจเนื้อผ้ามาก อย่างไรก็ตามความรู้สึกภายในยังโหยหาโลกแห่งแฟชั่นที่เต็มไปด้วยจินตนาการ เขาจึงตัดสินใจลาออก และสมัครเข้าทำงานในตำแหน่ง Illustrator & Designer ที่บริษัท มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชันแนล จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการทำงานที่ทำให้เขา “ได้กลับมาเป็นตัวของตัวเองอีกครั้ง”
“ที่นี่ผมมีหน้าที่วาดภาพประกอบสำหรับกิจกรรมของมิสแกรนด์ โดยนำภาพวาดของตัวนางงาม มาสร้างสรรค์เป็นรูปแบบสินค้าต่าง ๆ ที่เชื่อมโยงศิลปะกับแบรนด์มิสแกรนด์ได้อย่างมีชีวิต เช่น โปสเตอร์, โฟโต้การ์ด, เสื้อแฟนคลับ, สินค้าที่ระลึกต่าง ๆ ซึ่งหลายผลิตภัณฑ์เป็นไอเดียใหม่ที่บริษัทไม่เคยทำมาก่อน ทำให้ผมได้ปล่อยพลังสร้างสรรค์อย่างเต็มที่และยังได้มีโอกาสพัฒนาไอเดียใหม่ ๆ ให้กับองค์กรอย่างต่อเนื่อง”
หลังจากนั้น “แม็ค” ได้รับมอบหมายให้ออกแบบ “ชุดว่ายน้ำ” สำหรับการประกวด Miss Grand Thailand และ Miss Grand International ทั้งรอบ Preliminary และรอบไฟนอล ตั้งแต่ปี 2023 – ปี 2025 โดยต้องออกแบบให้เข้ากับธีมของแต่ละปี เช่น ความเป็นไทยร่วมสมัย , พลังหญิง , หัตถกรรมพื้นบ้าน เป็นต้น ซึ่งการออกแบบจะต้องสร้างสมดุลระหว่างความแปลกใหม่กับการสวมใส่ได้จริง เขาได้ใช้ความรู้จากการเรียนอย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบแพทเทิร์น การเลือกวัสดุ การตัดเย็บ และใช้โปรแกรมออกแบบต่าง ๆ มาประยุกต์ใช้ให้เข้ากับภาพลักษณ์ของนางงามในแต่ละเวที
มงกุฎแห่งดวงดาว ผลงานที่ภูมิใจที่สุด
ในปี 2025 “แม็ค” ได้รับโอกาสจากผู้ใหญ่ให้ลองออกแบบ “มงกุฎประจำปี” มงกุฎอันดับ 1, มงกุฎอันดับ 2 และมงกุฎอันดับ 3 ซึ่งเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์สำคัญของเวที Miss Grand Thailand เขาได้รับโจทย์จากหัวหน้าว่า “ให้ตีความในธีม ‘The Star Is Born ’ หรือ ‘การกำเนิดของดาวดวงใหม่’ ให้กลายเป็นมงกุฎที่มีความหมาย ลึกซึ้งและสง่างาม”
ศิษย์เก่าคณะศิลปกรรมศาสตร์ DPU เล่าถึงแรงบันดาลใจจากการระเบิดไอเดียออกแบบมงกุฎด้วยแนวคิด “Big Bang” หรือการเกิดของจักรวาล เปรียบเสมือนการแจ้งเกิดของดาวดวงใหม่ในวงการนางงาม ตนออกแบบมงกุฎจากจินตนาการล้วน ๆ โดยไม่ดูผลงานใคร เพื่อให้ผลงานมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยมีหัวหน้าฝ่ายผลิตมงกุฎ คอยให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิด โดยตนเองและทีมงานร่วมกันคัดเลือกพลอย สี วัสดุ ตัวเรือน ทุกขั้นตอน จนได้แบบที่สมบูรณ์ถูกนำไปผลิตจริง
ผลลัพธ์คือ มงกุฎที่ได้รับคำชมว่า “แปลกใหม่ หรูหรา และลึกซึ้ง” ซึ่งกลายเป็นผลงานที่ภาคภูมิใจที่สุดในชีวิต
แม็ค ยอมรับว่า หนึ่งในแรงกดดันของการทำงานไม่ใช่มาจากองค์กร แต่คือ “ความคาดหวังของแฟนนางงาม” ที่สูงมาก บางคนอาจไม่เข้าใจผลงาน บางคนอาจไม่ชอบ แต่มองว่านั่นคือ “โอกาสในการเรียนรู้” งานศิลปะไม่มีผิดถูก และผลงานจะดีหรือไม่ อยู่ที่การตีความของแต่ละคน ตนรับฟังทุกคำวิจารณ์ และใช้มันเป็นพลังในการพัฒนางานให้ดีขึ้น ไม่ใช่เพื่อเปลี่ยนสไตล์ตัวเอง แต่เพื่อพัฒนาผลงานให้ลึกซึ้ง มีความหมาย และเข้าถึงคนมากขึ้น
“วิธีคลายเครียดของผมคือ “นอน” ครับ เพราะเวลานอนคือ ช่วงที่สมองได้พักจริง ๆ บางครั้งตื่นมาก็เกิดไอเดียใหม่ที่ไม่เคยคิดมาก่อน”
แม้คยังฝากถึงรุ่นน้องที่สนใจเส้นทางแฟชั่นว่า “อย่ากลัวที่จะเริ่มต้น อย่าบอกตัวเองว่าเราทำไม่ได้ ถ้ายังไม่เคยลอง” เพราะบางครั้งโอกาสสำคัญมักมาในรูปแบบที่ไม่คาดคิด ถ้าเราได้โอกาสมาแล้ว จงตั้งใจให้สุด เพราะไม่มีใครรู้ว่าสิ่งนั้นอาจเปลี่ยนชีวิตเราได้
“ความพยายามไม่เคยทรยศใคร...ผมเชื่ออย่างสุดหัวใจว่ามันคือความจริงที่สุดในชีวิต" แม็คทิ้งท้ายด้วยประโยคที่ฝังใจ แต่ไม่เคยหยุดให้เขาก้าวต่อไปสู่ความสำเร็จ