
วิทยาลัยวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยี (CITE) มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (DPU) เดินหน้าส่งเสริมการเรียนรู้ด้านเทคโนโลยีเพื่อเยาวชน จัดกิจกรรมเวิร์กชอป Internet of Things (IoT) ให้นักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนต้นจากโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย นนทบุรี จำนวนกว่า 100 คน เมื่อวันที่ 2–3 กรกฎาคม 2568 ณ ห้อง Makerspace ชั้น 2 ศูนย์การเรียนรู้และหอสมุด มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์
กิจกรรมดังกล่าวออกแบบให้ผู้เรียนได้สัมผัสการเรียนรู้แบบลงมือปฏิบัติจริง (hands-on learning) เพื่อสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับเทคโนโลยี IoT ซึ่งเป็นแนวคิดสำคัญในยุคดิจิทัล โดยมุ่งเน้นให้นักเรียนได้ทดลองเขียนโปรแกรมควบคุมอุปกรณ์ (Coding) เชื่อมต่ออุปกรณ์กับอินเทอร์เน็ต และพัฒนาแอปพลิเคชันเพื่อควบคุมอุปกรณ์จากระยะไกล อาทิ การเปิด-ปิดไฟผ่านแอปมือถือ หรือการส่งข้อความสั่งการหุ่นยนต์ให้ทำงานตามคำสั่ง
อาจารย์ณพัฒน์ สุวรรณ อาจารย์ประจำหลักสูตรวิศวกรรมโลจิสติกส์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ในฐานะวิทยากรผู้ดำเนินกิจกรรม เปิดเผยว่า การจัดกิจกรรมในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้เยาวชนเข้าใจว่าเทคโนโลยี IoT ไม่ใช่เรื่องไกลตัว หากแต่เป็นสิ่งที่อยู่รอบตัวในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นประตูอัตโนมัติ ลิฟต์ หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน
“วัตถุประสงค์หลักของกิจกรรม คือ การทำให้นักเรียนได้เข้าใจว่าเทคโนโลยี IoT ไม่ใช่เรื่องไกลตัว เราเริ่มจากการสอนพื้นฐานการเขียนโค้ดเพื่อควบคุมอุปกรณ์ เช่น หุ่นยนต์หรือเซ็นเซอร์ต่าง ๆ ที่พวกเขาพบเห็นได้ในชีวิตประจำวัน จากนั้นให้เขาลองเขียนโค้ด เชื่อมต่ออุปกรณ์กับอินเทอร์เน็ต และพัฒนาแอปพลิเคชันเพื่อควบคุมอุปกรณ์เหล่านี้” อาจารย์ณพัฒน์ กล่าว
นอกจากนี้กิจกรรมเวิร์กชอปยังถูกออกแบบให้ครอบคลุมทั้งด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ โดยนักเรียนจะได้เรียนรู้การใช้งาน Microcontroller, Sensor, Actuator การสร้างแอปพลิเคชันเพื่อควบคุมอุปกรณ์ และการทำงานร่วมกันระหว่างอุปกรณ์กับแอปพลิเคชันในอุปกรณ์พกพา เช่น การเขียนโปรแกรมในมือถือเพื่อส่งคำสั่งไปยังอุปกรณ์ และตั้งโปรแกรมให้อุปกรณ์ตอบสนองอย่างถูกต้อง อีกทั้งภายในกิจกรรมดังกล่าวยังสอดแทรกเนื้อหาด้านอิเล็กทรอนิกส์พื้นฐาน เพื่อให้นักเรียนเข้าใจกลไกการทำงานของเซ็นเซอร์ต่าง ๆ การรับค่าและประมวลผลข้อมูลจากเซ็นเซอร์ รวมถึงการประยุกต์ใช้ความรู้ที่ได้กับสถานการณ์จริง เช่น ระบบอัตโนมัติในบ้าน สมาร์ทฟาร์ม หรืออุปกรณ์สวมใส่อัจฉริยะ (Wearable Device)
“สิ่งที่น้อง ๆ ได้ในวันนี้ ไม่ใช่แค่ความรู้เชิงเทคนิค แต่ยังสามารถนำไปต่อยอดเป็นโครงงานในโรงเรียนได้ ยิ่งในปัจจุบัน โครงงานไม่ใช่แค่ฟิวเจอร์บอร์ดอีกต่อไป แต่สามารถมีระบบอัตโนมัติ มีการเขียนโค้ด และใช้เซ็นเซอร์เพื่อตอบสนองต่อผู้ใช้ได้จริง” อาจารย์ณพัฒน์ กล่าวเพิ่มเติม
อาจารย์ณพัฒน์ ยังกล่าวอีกว่า กิจกรรม “Internet of Things” ยังสอดคล้องกับแนวทางการจัดการเรียนการสอนของวิทยาลัยวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยี ที่เน้นการเรียนรู้จากการลงมือปฏิบัติจริง การคิดเชิงวิเคราะห์ การออกแบบระบบ และการประยุกต์ใช้ความรู้เพื่อแก้ปัญหาในชีวิตประจำวัน พร้อมสร้างแรงบันดาลใจให้นักเรียนสนใจและเข้าใจเทคโนโลยีวิศวกรรมมากขึ้น ซึ่งการเปิดโอกาสให้นักเรียนมัธยมได้เรียนรู้เทคโนโลยีตั้งแต่เนิ่น ๆ คือการสร้างแรงบันดาลใจระยะยาว เมื่อนักเรียนได้สัมผัสและสนุกสนาน โอกาสที่จะสนใจเรียนในสายวิศวกรรมในอนาคตก็มีมากขึ้น เพราะไม่ได้มองว่าวิศวกรรมเป็นเรื่องยากอีกต่อไป ทว่าเป็นสิ่งที่เคยเรียนรู้และทำมาแล้ว