
หลักสูตรแพทย์แผนไทย วิทยาลัยเฮลท์ แอนด์ เวลเนส มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (DPU) ร่วมกับศูนย์การค้า Paradise Park เดินหน้าจัดกิจกรรม “แพทย์แผนไทยเคลื่อนที่” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 โดยจัดขึ้นบริเวณชั้น 3 ของศูนย์การค้า Paradise Park ในวันที่ 17–18 และ 24–25 พฤษภาคม 2568 เพื่อเปิดพื้นที่ให้นักศึกษาหลักสูตรแพทย์แผนไทย ทั้งระดับปริญญาตรี (ชั้นปีที่ 1–4) และหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ก) ด้านเวชกรรมไทย เภสัชกรรมไทย การนวดไทย และการหัตถการ ได้มีโอกาสลงพื้นที่ฝึกปฏิบัติจริงในการให้บริการด้านสุขภาพแก่ประชาชน ไม่เพียงให้นักศึกษาได้นำองค์ความรู้จากห้องเรียนไปประยุกต์ใช้ในสถานการณ์จริงเท่านั้น แต่พัฒนาทักษะวิชาชีพ เสริมสร้างความมั่นใจและปลูกฝังจิตวิญญาณการเป็นแพทย์แผนไทยพร้อมให้บริการอย่างมืออาชีพ ภายใต้การดูแลจากคณาจารย์
อาจารย์ พท.อภิรัช ประชาสุภาพ หัวหน้าหลักสูตรและอาจารย์ประจำหลักสูตรแพทย์แผนไทย วิทยาลัยเฮลท์แอนด์เวลเนส มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ เปิดเผยว่า กิจกรรมนี้จัดขึ้นภายใต้หลักสูตรการแพทย์แผนไทยทั้งสองระบบ ได้แก่ หลักสูตรระดับปริญญาตรี และหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ก) ซึ่งเป็นหลักสูตรที่ได้รับการออกแบบให้มีมาตรฐานในขั้นสูง มีเป้าหมายเพื่อผลิตบุคลากรที่มีความรู้ความเข้าใจด้านสมุนไพร การหัตถการต่างๆ และการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม พร้อมตอบสนองกับนโยบายของกระทรวงสาธารณสุข และกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ที่ส่งเสริมให้ประชาชนสามารถเข้าถึงการดูแลสุขภาพที่ปลอดภัยผ่านการใช้สมุนไพรไทยและการนวดไทยเพื่อการรักษา
“ภายในกิจกรรมมีบริการหลากหลาย ครอบคลุมตั้งแต่การตรวจสุขภาพเบื้องต้น เพื่อดูจุดอ่อนของสุขภาพ และเป็นแนวทางการวินิจฉัยอาการตามหลักเวชกรรมไทย ในอาการต่างๆ เช่น ปวดเมื่อยเรื้อรัง ท้องอืด ท้องเฟ้อ ระบบย่อยอาหาร และขับถ่ายที่ผิดปกติ ไมเกรน เลือดลมไม่สมดุล กลุ่มอาการที่เกี่ยวข้องกับการไหลเวียนโลหิต ภูมิแพ้ และภาวะลองโควิด นอกจากนี้ยังมีการให้คำแนะนำด้านสุขภาพอย่างเหมาะสม และจ่ายยาสมุนไพรฟรี ตามอาการ ซึ่งยาทั้งหมดผลิตโดยนักศึกษาในรายวิชาที่เกี่ยวข้อง และผ่านการตรวจสอบคุณภาพโดยอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญอย่างเข้มงวด” หัวหน้าหลักสูตรและอาจารย์ประจำหลักสูตรแพทย์แผนไทย วิทยาลัยเฮลท์แอนด์เวลเนส DPU กล่าว
ในส่วนของด้านหัตถการที่ให้บริการ ประชาชนสามารถรับบริการพอกตาเพื่อลดความร้อนบริเวณดวงตา บรรเทาอาการปวดตา รวมถึงการนวดแก้อาการเพื่อการรักษาโรคใน 7 กลุ่มอาการ ตามนโยบายของกระทรวงสาธารณสุข และกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ได้แก่ กลุ่มปวดกล้ามเนื้อและเยื่อพังผืด โรคหัวไหล่ติด โรคนิ้วล็อก ภาวะกล้ามเนื้อสะโพกหนีบเส้นประสาท (ปวดสลักเพชร) หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท อัมพฤกษ์ อัมพาต และอาการปวดเข่า หัตถการตอกเส้นด้วยเครื่องมือเฉพาะ และการปรับโครงสร้างร่างกาย ทั้งหมดดำเนินการภายใต้การดูแลอย่างใกล้ชิด เพื่อให้ประชาชนได้รับบริการอย่างปลอดภัย ซึ่งทำให้นักศึกษาได้เห็นปัญหาด้านสุขภาพของผู้มารับบริการได้จริง ทำให้ได้ฝึกทักษะการประเมินอาการ และการสื่อสารกับผู้ป่วย รวมถึงการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าในสถานการณ์จริง ซึ่งถือเป็นการต่อยอดองค์ความรู้จากในห้องเรียนสู่การปฏิบัติจริงในลักษณะ “ครบวงจร”
อาจารย์ พท.อภิรัช กล่าวต่อว่า นักศึกษาจะเริ่มจากการเก็บข้อมูลอาการของผู้ป่วย นำมาวิเคราะห์และนำเสนอในชั้นเรียน พร้อมทั้งติดตามผลการรักษาในสัปดาห์ถัดไป เป็นกระบวนการเรียนรู้ตั้งแต่การวินิจฉัย การให้ยา การบำบัดรักษา และการติดตามผลอย่างเป็นระบบ โดยเชื่อมโยงกับการเรียนการสอนตามหลักสูตรและหากพบว่าผู้ป่วยมีอาการที่ต้องดูแลต่อเนื่อง นักศึกษาสามารถส่งต่อเข้าสู่ระบบบริการของคลินิกแพทย์แผนไทย มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ซึ่งเปิดให้บริการในทุกวัน ตั้งแต่ 9.00-17.00 ได้ทันที
ทั้งนี้จากการจัดกิจกรรมที่ผ่านมาได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างดี ประชาชนให้ความสนใจเข้ารับบริการจำนวนมาก โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุที่ประทับใจในคุณภาพของการดูแล และมองว่า “แพทย์แผนไทยเคลื่อนที่” คืออีกหนึ่งทางเลือกที่ดีในการดูแลสุขภาพใกล้บ้าน โดยไม่ต้องพึ่งพายาเคมีหรือเดินทางไปยังโรงพยาบาลขนาดใหญ่ จึงขอเชิญชวนประชาชนที่สนใจสามารถเข้าร่วมกิจกรรมในวันที่ 24–25 พ.ค. 2568 เวลา 10.00–18.00 น. ณ ชั้น 3 ศูนย์การค้า Paradise Park ถนนศรีนครินทร์ เขตประเวศ กรุงเทพฯ