ความรู้ความเข้าใจและทัศนคติของข้าราชการพลเรือนเกี่ยวกับการปฏิรูประบบราชการ : กรณีศึกษาข้าราชการพลเรือนในเขตกรุงเทพมหานคร

บทคัดย่อ

รายงานการวิจัยเรื่อง ความรู้ความเข้าใจและทัศนคติของข้าราชการพลเรือนเกี่ยวกับการปฏิรูประบบราชการ : กรณีศึกษาข้าราชการพลเรือนในเขตกรุงเทพมหานครเป็นลักษณะงานวิจัยเชิงคุณภาพและเชิงปริมาณ โดยมีวัตถุประสงค์ คือ 1) เพื่อศึกษาระดับความรู้ ความเข้าใจและระดับทัศนคติของข้าราชการพลเรือนเกี่ยวกับการปฏิรูประบบราชการ 2) เพื่อศึกษาปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับความรู้ ความเข้าใจและทัศนคติของข้าราชการพลเรือนเกี่ยวกับการปฏิรูประบบราชการกลุ่มตัวอย่างในการวิจัยเป็นข้าราชการพลเรือนในเขตกรุงเทพมหานครตั้งแต่ ซี 3 – ซี 9 ที่สังกัดกระทรวงต่าง ๆ จำนวน 400 คน โดยใช้เทคนิคการสุ่มตัวอย่างแบบหลายขั้นตอน และการเก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสอบถาม สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ สถิติพรรณนาและสถิติเชิงอนุมาน ซึ่งปรากฏผลการวิจัย ดังนี้
1. ข้าราชการส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง มีอายุระหว่าง 26 – 30 ปี มีสถานภาพเป็นโสด จบการศึกษาในระดับปริญญาตรี และมีระยะเวลาการทำงานหรืออายุราชการตั้งแต่ 6 – 10 ปี ซึ่งข้าราชการได้รับทราบข้อมูลข่าวสารและเข้ามามีส่วนร่วมหรือมีประสบการณ์ในการปฏิรูประบบราชการอย่างต่อเนื่อง โดยจะรับรู้ข้อมูลจากการดูโทรทัศน์ และอ่านหนังสือพิมพ์ จึงทำให้ข้าราชการส่วนใหญ่มีระดับความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการปฏิรูประบบราชการอยู่ในระดับมาก และมีทัศนคติที่ค่อนข้างดีต่อการปฏิรูประบบราชการ
2. ปัจจัยที่ส่งผลต่อระดับความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการปฏิรูประบบราชการ คือ การรับรู้ การมีประสบการณ์หรือการมีส่วนร่วมเกี่ยวกับการปฏิรูประบบราชการ ส่วนปัจจัยที่ส่งผลต่อระดับทัศนคติต่อการปฏิรูประบบราชการ คือ ระยะเวลาการทำงานหรืออายุราชการ หน่วยงานต้นสังกัด และการรับรู้ การมีประสบการณ์หรือการมีส่วนร่วมเกี่ยวกับการปฏิรูประบบราชการ

Abstract

This is the research on the Knowledge, Attitude of Civil Servant in Public Reform. The case study is civil servant in Bangkok. This paper is based on two types of research, quantitative and qualitative. There are two main aims of this paper 1) seek to divide the levels of the understanding, knowledge, and attitude of public servant in public reform, and 2) study the factors that effect to knowledge and attitude of public servant in public reform.
Under this research, 400 public servants random from different ministries in Bangkok. The level of their positions are ranging from level 3 to level 9. Moreover, all data were collected by utilized the questionnaires. All data in this research are calculated by two types of statistics, descriptive, and inference statistics. Thus, there are two consequences.
1) Most of public servants are women and single. Their ages are ranging from 20-30 years old. They have been working as public servant for 6-10 years. They have been receiving information about public reform from television, and newspapers. So, they most of them have quite positive attitude and understood about public reform.
2) There are such a variety of factors effect on the understanding and the attitude of public reform for example the experience, the length of work, the departments, and the participation in public reform.