แบบการเรียนรู้และปัจจัยที่มีผลต่อการเรียนรู้ของนักศึกษาชั้นปีที่ 1 มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาแบบการเรียนของนักศึกษาชั้นปีที่ 1 ของมหา-วิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ศึกษาความสัมพันธ์แบบการเรียนของนักศึกษา จำแนกตามเพศ คณะวิชา ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และศึกษาความพึงพอใจต่อสภาพแวดล้อม ได้แก่ ศูนย์สนเทศและหอสมุด ศูนย์คอมพิวเตอร์ สภาพห้องเรียน ห้องพยาบาล ศูนย์อาหาร อาคารจอดรถ โดยรวบรวมข้อมูลจากนักศึกษาชั้นปีที่ 1 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2543 จำนวน 4,169 คน โดยใช้เครื่องการวัดแบบการเรียนของกราชา และไรซ์แมน ( Grasha and Reichman ) สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ การหาค่าร้อยละ และการทดสอบไคว์สแควร์ ( Chi-Square ) พบว่านักศึกษาชั้นปีที่ 1 ของมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ชอบแบบการเรียนแบบร่วมมือสูงสุด ชอบแบบการเรียนแบบมีส่วนร่วมรองลงมา และชอบแบบการเรียนแบบแข่งขันน้อยที่สุด
จากการศึกษาความสัมพันธ์ของแบบการเรียน จำแนกตามเพศ คณะวิชา และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนพบว่า นักศึกษาที่มีเพศต่างกัน ชอบแบบการเรียนที่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ .05 โดยนักศึกษาเพศชายชอบแบบการเรียนแบบร่วมมือมากที่สุด นักศึกษาเพศหญิงชอบแบบการเรียนแบบมีส่วนร่วมมากที่สุด นักศึกษาที่มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนต่างกัน ชอบแบบการเรียนที่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ .05 โดยนักศึกษาที่มีเกรดเฉลี่ยมากกว่า 3.00 และน้อยกว่า 2.00 ชอบแบบการเรียนแบบร่วมมือมากที่สุด สำหรับนักศึกษาที่มีเกรดเฉลี่ย 2.00 – 2.99 ชอบแบบการเรียนแบบแบบมีส่วนร่วมมากที่สุด ด้านความพึงพอใจของนักศึกษาที่มีต่อสภาพแวดล้อมของมหาวิทยาลัย พบว่านักศึกษามีความพึงพอใจต่อศูนย์สนเทศและหอสมุดมากที่สุด และมีความพึงพอใจต่อบริการของศูนย์คอมพิวเตอร์น้อยที่สุด

The purpose of this study were to find out the learning styles preferences of the first year students at Dhurakijpundit University and to investigate the relationship between the students’ learning style by gender, fields of study and academic achievement and to study the students’ satisfaction towards the environment : the Library and Information Center, the Computer, the classroom condition, the doctor’ s clinic, the cafeteria and the parking lots

There were 4,169 students studying in second semester, 2000 academic year. Who participated in responding student learning style questionnaire which was developed by Grasha and Reichman, the data for this study was analyzed by using percentage and Chi-Square test, the result showed that the students favored the collaborative learning style the most, participant learning style was second priority and competitive style the least

The study of the relationship between the student’ s learning style by gender, fields of study and academic achievement revealed the male and female students have different learning style preferences at .05 significance level ; that is male student favored the collaborative learning style the most while the female students favored the participant learning style the most. As for academic achievement , it was statistically significant difference at .05 level – those with GPA higher than 3.00 and lower 2.00 favored the collaborative learning style the most while those whose GPA between 2.00 to 2.99 favored the participant learning style the most. The investigation of the students’ satisfaction toward the University environment indicated that the students were satisfied with the services provided by the Library and Information Center the most and the Computer Center the least

---