การศึกษาการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ของนักศึกษาวิชาการบริหารท้องถิ่น : เปรียบเทียบการเรียนโดยใช้กระบวนการเรียนรู้แบบร่วมมือ ด้วยเทคนิค STAD (Student Teams Achievement Division) กับการเรียนแบบบรรยายปกติ
.png)
บทคัดย่อ
การศึกษาการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ของนักศึกษาวิชาการบริหารท้องถิ่น : เปรียบเทียบการเรียนโดยใช้กระบวนการเรียนรู้แบบร่วมมือด้วยเทคนิค STAD (Student Teams Achievement Division) กับการเรียนแบบบรรยายปกติในครั้งนี้ เกิดขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ก่อนเรียนและหลังเรียนโดยใช้กระบวนการเรียนรู้แบบร่วมมือด้วยเทคนิค STAD กับการเรียนแบบบรรยายปกติของนักศึกษาวิชาการบริหารท้องถิ่น (2) ศึกษาความพึงพอใจของนักศึกษาวิชาการบริหารท้องถิ่นที่มีต่อกระบวนการเรียนรู้แบบร่วมมือด้วยเทคนิค STAD (3) ส่งเสริมให้นักศึกษามีพฤติกรรมการเรียนรู้ด้วยตนเอง การทำงานร่วมกันเป็นทีม การเป็นสมาชิกกลุ่มที่ดี และการรับผิดชอบต่อส่วนรวม (4) เสริมสร้างสัมพันธภาพที่ดีและความสามัคคีให้เกิดขึ้นระหว่างผู้เรียน
รูปแบบการจัดการเรียนการสอนที่ผู้วิจัยนำมาใช้ เป็นรูปแบบการจัดการเรียนการสอนแบบร่วมมือด้วยเทคนิค STAD โดยเปรียบเทียบกับกลุ่มที่มีการเรียนแบบบรรยายปกติ ซึ่งเก็บข้อมูลจากนักศึกษาระดับปริญญาตรีภาคปกติ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ที่ลงทะเบียนเรียนในรายวิชาการบริหารท้องถิ่น (PA 304) ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2554 การวิเคราะห์ข้อมูลในการวิจัยแบ่งออกเป็น 1) การศึกษาการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ของกลุ่มที่มีการเรียนการสอนแบบ STAD กับแบบการบรรยายปกติ ด้วยการวิเคราะห์เปรียบเทียบค่าเฉลี่ยคะแนนทดสอบของกลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุม และการเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างคะแนนเฉลี่ย (t-test) และ 2) การศึกษาความพึงพอใจต่อการเรียนรู้แบบร่วมมือ STAD โดยใช้การประเมินความพึงพอใจ 5 ระดับ
ผลการวิจัยทั้งในส่วนของการศึกษาการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ของนักศึกษาที่มีต่อการเรียนรู้แบบร่วมมือด้วยเทคนิค STAD กับการเรียนแบบบรรยายปกติ และการสำรวจความพึงพอใจต่อการเรียนรู้แบบ STAD คือ
(1) ก่อนการวิจัย จะพบว่า ในทางสถิตินั้นการวิเคราะห์ความแตกต่างระหว่างค่าเฉลี่ยคะแนนของกลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุมด้วยวิธีทดสอบทดสอบสมมุติฐานด้วย t-test ที่ระดับนัยสำคัญ 0.05 พบว่า คะแนนเฉลี่ยผลการสอบกลางภาคของทั้ง 2 กลุ่ม ไม่มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 (ค่า P-value ( ค่า Sig ) > .05) แต่เมื่อเปรียบเทียบคะแนนการสอบกลางภาคทั้ง 2 กลุ่มนั้นจะพบว่า ผลคะแนนเฉลี่ยการสอบกลางภาคของกลุ่มทดลอง (18.37 คะแนน) มีค่าเฉลี่ยน้อยกว่ากลุ่มควบคุม (18.51 คะแนน)
(2) ผลจากการทดลอง ค่าเฉลี่ยจากการทดสอบครั้งที่ 1 ครั้งที่ 2 และคะแนนปลายภาคของกลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุม ในการสรุปผลทางสถิติเมื่อทดสอบสมมุติฐานด้วย t-test ที่ระดับนัยสำคัญ 0.05 พบว่า ค่าเฉลี่ยผลของนักศึกษากลุ่มทดลองกับกลุ่มควบคุมในการทดสอบทั้ง 3 ครั้ง ไม่มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 (ค่า P-value ( ค่า Sig ) > .05) แต่เมื่อพิจารณาผลคะแนนเฉลี่ยในแต่ละครั้ง กลุ่มทดลองจะมีค่าเฉลี่ยสูงกว่ากลุ่มควบคุมทุกครั้ง
(3) ผลการศึกษาความพึงพอใจของผู้เรียนที่มีต่อการเรียนการสอนของอาจารย์และพัฒนาการการเรียนของนักศึกษาด้วยรูปแบบ STAD นั้น พบว่า ทั้งความพึงพอใจของนักศึกษาที่มีต่อการเรียนการสอนของอาจารย์และความพึงพอใจต่อการพัฒนาการเรียนของนักศึกษา มีค่าเฉลี่ยรวมเท่ากันคือ 4.47
Abstract
The purposes of the study on development of learning effectiveness of students in local administration subject : a comparison of the learning effectiveness using STAD (student teams achievement division) and lecture are (1) to compare the learning achievement before and after using the cooperative learning with STAD and the lecture of students who studied local administration (2) to survey the satisfaction of the students who studied local administration using techniques STAD (student teams achievement division) (3) to encourage students to learn by themselves , work as a team and be responsible team members. (4) to reinforce good relationship and harmony among students.
The teaching model used in this study was a cooperative learning approach using STAD (student teams achievement division). The result was therefore compared with the normal lecture class. The data of the research was collected from students who studied local administration (PA 304) at Dhurakij Pundit University in Semester 2, Academic year 2011. The data was analysed 1) to examine the differences in students’ average scores (t-test) after learning with technique STAD and normal lectures class (experimental and control groups) and 2) to study the satisfaction of the students who studied with cooperative learning STAD using the 5 level satisfaction.
The research revealed that
(1) Before the research, the statistical analysis of the mean scores (t-test) between the experimental group and the control group from the average score of mid-term exam of both groups was not significantly different at the .05 significant level. However, when comparing midterm scores between the experimental group and the control group, it found that the average scores of the midterm exam of the experimental group (18.37 points) were less than the scores of the controls group (18.51 points).
(2) The result of the average scores of the 1st , 2nd test and final scores of the experimental and control groups showed that the mean scores between the experimental and control groups (using t-test) were not significantly different at the .05 significant level. However when considering average score, the experimental group’s scores were always higher than the scores of the control group.
(3) According to the satisfaction survey of the students towards the teaching approach STAD, it showed that the mean of students’ satisfaction toward the approach was 4.47.
นักวิจัย : สุชาวดี เดชทองจันทร์
สังกัด : คณะรัฐประศาสนศาสตร์
คำสำคัญของโครงการ :
ปีที่เสร็จ : 2558