การศึกษาความพร้อมและการเตรียมตัวทางด้านการศึกษาของประเทศสมาชิกอาเซียนเพื่อรองรับการรวมตัวกันเป็นประชาคมอาเซียนในปีพุทธศักราช 2558

บทคัดย่อ

     งานวิจัยเรื่อง การศึกษาความพร้อมและการเตรียมตัวทางด้านการศึกษาของประเทศสมาชิกอาเซียนเพื่อรองรับการรวมตัวกันเป็นประชาคมอาเซียนในปีพุทธศักราช 2558มีวัตถุประสงค์หลักสองประการคือ (1) เพื่อวิเคราะห์ความพร้อม (Readiness) และการเตรียมตัว (Preparation) ของประเทศสมาชิกอาเซียนด้านการศึกษา (Education) เป็นการศึกษาโดยภาพรวม (Overview) ของแต่ละชาติสมาชิก โดยเลือกศึกษา 9 ชาติสมาชิกอาเซียน อันได้แก่ บรูไน ดารุสซาลาม กัมพูชา อินโดนีเซีย มาเลเซีย พม่า ลาว ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์และเวียดนามของชาติสมาชิกทั้งเก้า โดยพิจารณาจากโมเดล EKSA ที่สร้างขึ้นโดยผู้วิจัย เพื่ออธิบายการถึงความพร้อมและการเตรียมตัวทางด้านการศึกษาเพื่อเข้าสู่ประชาคมอาเซียน โมเดล EKSA แบ่งออกเป็น 4 องค์ประกอบหลัก ได้แก่ ภาษาอังกฤษ (English) ความรู้เกี่ยวกับประชาคมอาเซียน (Knowledge of Asean Community) ทักษะอาเซียน (Asean Skills) และ เจตคติต่ออาเซียน (Attitudes towards Asean Integration)  (2) คือเพื่อเปรียบเทียบความเหมือนและแตกต่าง (Similarities and Differences) ตลอดจนแนวทางในการรับรู้และจัดการกับปัญหาที่เกิดขึ้นจากการพยายามร่วมกันสร้างชุมชุนในระดับนานาชาติ (Regionalization) ระหว่างกลุ่มประเทศของสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (ASEAN) กับกลุ่มประเทศสหภาพยุโรป (European Union: EU)

     งานวิจัยนี้ได้รับทุนอุดหนุนการวิจัยจากมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ประจำปี พ.ศ. 2554 เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) โดยข้อมูลในการวิเคราะห์ได้มาจากการเก็บรวบรวมข้อมูลที่เป็นตัวบท (texts) จากเอกสาร (Documents) การสัมภาษณ์เชิงลึก (In-depth Interviews) และข้อมูลจากการประชุมที่เกี่ยวข้องกับการสร้างประชาคมอาเซียน  

     ผลการวิจัยพบว่า ประเทศสมาชิกทั้งเก้าของอาเซียนข้างต้นมีระดับความพร้อมและการเตรียมตัวทางด้านการศึกษาเพื่อเข้าสู่ประชาคมอาเซียนแตกต่างกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งความพร้อมทางด้านภาษาอังกฤษ โดยสิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ มาเลเซียและบรูไน มีความพร้อมทางด้านภาษาอังกฤษในระดับที่สูงกว่าสมาชิกอีกห้าชาติ  สมาชิกอาเซียนที่มีระดับการพัฒนาทางเศรษฐกิจในระดับที่ต่ำกว่า อันได้แก่ พม่า ลาว กัมพูชา ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และเวียดนาม มีเจตคติในทางบวกต่อการร่วมกันสร้างประชาคมอาเซียนเนื่องจากประชาชนจะได้ประโยชน์ในการสร้างกลุ่มทางเศรษฐกิจกว่าครึ่งของอาเซียนยังเป็นประเทศที่รับความช่วยเหลือจากต่างชาติอยู่ ในขณะที่สมาชิกของอียูส่วนใหญ่เป็นประเทศผู้บริจาค (Donors) อาเซียนมีช่องว่างของการพัฒนาทางเศรษฐกิจของชาติสมาชิกที่สูงกว่า  สหภาพยุโรปหรืออียู ระดับการพัฒนาทางการศึกษา ระบบและกลไกของความร่วมมือทางการศึกษาของอียูมีความชัดเจนกว่าอาเซียนนโยบายทางด้านภาษาของอียูกับอาเซียนแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด อาเซียนระบุเอาไว้ในกฎบัตรอาเซียนว่าภาษาอังกฤษคือภาษาที่ใช้ในการทำงานของอาเซียน (Working Language) แต่อียูใช้นโยบายพหุภาษา อียูเน้นการศึกษาด้านหน้าที่พลเมือง (Civic Education) เน้นการมีส่วนร่วมทางการเมือง สิทธิและหน้าที่พลเมืองแบบตะวันตก ในขณะที่หลายชาติในอาเซียนยังคงเน้นการศึกษาเพื่อสร้างอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรมของตน ทั้งอียูและอาเซียนต่างมุ่งสร้างสันติภาพและความมั่งคงร่วมกันของชาติสมาชิก

Abstract

     The aims of this research were 1) to investigate the selected ASEAN members’ educational readiness and preparation for the creation of ASEAN community by the year 2015, and 2) to compare their educational readiness and preparation with the European Union’s. This research is a qualitative study relied on the data and information from the printed materials, online materials, and interviews of select individuals. The research project began on March 2011 and completed in June 2012. The research has proposed that a model of Asean educational readiness and preparation entails for dimensions, namely, English ability, ASEAN knowledge, ASEAN skills, and attitudes towards ASEAN integration.   

     It was found that the nine select ASEAN members had various levels of readiness, especially the English language ability of their citizens. Singapore, the Philippines, Brunei, and Malaysia were found to have higher levels of English language readiness.