บทบาทสื่อมวลชนในการสร้างจิตสำนึกสาธารณะ: กรณีศึกษา สถานีวิทยุร่วมด้วยช่วยกัน เอฟเอ็ม ๙๖.๐ เมกกะเฮิรตซ์

งานวิจัย เรื่องบทบาทสื่อมวลชนในการสร้างจิตสำนึกสาธารณะ: กรณีศึกษา สถานีวิทยุร่วมด้วยช่วยกัน เอฟเอ็ม ๙๖.๐ เมกกะเฮิร์ตซ์เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาแนวคิด นโยบาย การบริหารจัดการ และบทบาท ในการสร้างจิตสำนึกสาธารณะของสถานีวิทยุร่วมด้วยช่วยกัน โดยใช้วิธีการวิเคราะห์เนื้อหาจากผู้ฟังและประชาชนที่โทรศัพท์เข้ามาแจ้งเรื่องราวร้องทุกข์ต่อสถานีวิทยุร่วมด้วยช่วยกัน ในระยะเวลา ๖ เดือน รวม ๕๙,๖๖๗ เรื่องและสัมภาษณ์เชิงลึกบุคคล ๓ กลุ่ม รวม ๑๕ คน ได้แก่ กลุ่มผู้บริหาร กลุ่มผู้ปฏิบัติงาน และกลุ่มอาสาสมัครสถานีวิทยุร่วมด้วยช่วยกัน
ผลการวิจัยพบว่า
๑.ด้านแนวคิด นโยบาย สถานีวิทยุร่วมด้วยช่วยกันเป็นองค์กรที่จัดตั้งโดยกลุ่มบริษัทในเครือของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ที่มีนโยบายเริ่มต้นเพื่อมุ่งมั่นที่จะเป็นสื่อกลางในการสร้างสำนึกชุมชน และสำนึกสาธารณะ ส่งเสริมให้คนในสังคมมีความรัก มีน้ำใจต่อทั้งในระดับปัจเจก และระดับองค์กร เพื่อให้เกิดการแก้ไขปัญหา หรือบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนได้อย่างรวดเร็วและเป็นรูปธรรม
เป็นสื่อกลางในการรณรงค์ให้ความข้อมูลข่าวสาร ความรู้ เพื่อให้ประชาชนเกิดความเข้าใจที่ถูกต้องในการทำความดี ว่าไม่ใช่ ‘เรื่องน่าอาย’
๒.ด้านการบริหารจัดการ สถานีวิทยุร่วมด้วยช่วยกันเป็นองค์กรที่เน้นการส่งเสริมการทำความดี โดยไม่หวังผลตอบแทนแล้ว มีความตั้งใจ ทุ่มเท และใส่ใจกับปัญหาทุกเรื่อง และยังมีพันธมิตรหลากหลายองค์กรจำนวนมาก ที่พร้อมจะให้ความร่วมมือช่วยเหลืออย่างเต็มที่ สอดคล้องกับหลักการทำงานที่ว่า ‘ทุกเรื่องต้องมีคำตอบ’
การจัดรูปแบบรายการแบบ non format และเปิดโอกาสให้ประชาชนโทรศัพท์เข้ามาขอความช่วยเหลือ ทำให้เกิดความคล่องตัวในการดำเนินรายการอย่างมาก และส่งผลให้สถานีวิทยุร่วมด้วยช่วยกันประสบความสำเร็จในการจัดรายการวิทยุเพื่อสร้างจิตสำนึกสาธารณะอย่างมาก
๓.บทบาทของในการสร้างจิตสำนึกสาธารณะของสถานีวิทยุร่วมด้วยช่วยกัน
สถานีวิทยุร่วมด้วยช่วยกันเน้นการการสร้างจิตสำนึกสาธารณะผ่านผ่านบทบาทการนำเสนอข้อมูลข่าวสารเป็นหลัก รองลงมาคือการประสานสัมพันธ์ การรณรงค์ทางสังคม การเมือง และเศรษฐกิจ การสร้างความต่อเนื่องทางสังคม และการให้ความเพลิดเพลินแก่สมาชิกในสังคม ตามลำดับ และยังได้ทำหน้าที่เพิ่มเติมที่มากกว่าความเป็นสื่อ คือรับบริจาคเงินและความช่วยเหลือทั้งเงินและสิ่งของ โดยเป็นสื่อกลางระหว่างผู้ที่เดือดร้อนและผู้ที่ต้องการให้ความช่วยเหลือ ได้อย่างรวดเร็ว

The role of Media in aspect of Public Consciousness: the Case Study of Ruam Duey Chuey Kan Radio Station F.M. 96.0 MHZ was the qualitative research which for studying the way of thinking, policy, managing administration and the role in aspect of public of Ruam Duey Chuey Kan Radio Station. As the content analysis from listening and people who call to inform or complain to Ruam Duey Chuey Kan Radio Station for 6 months amount 59,667 items. Furthermore, in - depth interview with 3 groups as executive group, performance group and volunteer group of Ruam Duey Chuey Kan Radio Station were also obtained.
The results was shown that
1.The way of thinking and policy
Ruam Duey Chuey Kan Radio Station was the organization contributed by The Crown Property Bureau which had the first policy as the media of community and public of consciousness. This policy was also supported to society as the good sympathy in both private and organized level for solving or relieving the problem of people with instantly and justly.
Moreover, this station was the media for inform news and knowledge so that people would correctly understand with “Don’t be shame to do the goodness”.
2.Managing administration
Ruam Duey Chuey Kan Radio Station was not only the goodness - doing supporting organization with a reward but also intend to every problems and the alliances from many organizations also completely helped together as ‘Everything has answer’.
Non-format of this station and give the chance for people to phone in the station were made fluently process and greatly pushed Ruam Duey Chuey Kan Radio station to achieve for public consciousness.
3.The role of the public consciousness of Ruam Duey Chuey Kan Radio station
Ruam Duey Chuey Kan Radio station focused on the public consciousness mainly through the role of news information, relation, society campaign, politic, economics, society continuation and also relaxation of members of society, respectively. More than the media, all contributions, not only money but also necessary things or every assistance could pass through the victims suddenly

---