การประเมินรายวิชาจิตสำนึกสาธารณะเพื่อชุมชนเพื่อพัฒนาวิธีสอน

การประเมินรายวิชาจิตสำนึกสาธารณะเพื่อชุมชนเพื่อพัฒนาวิธีสอนมีวัตถุประสงค์สองประการ ประการแรก
เพื่อประเมินผลการเรียนรู้ตามวัตถุประสงค์ของรายวิชาจิตสำนึกสาธารณะเพื่อชุมชน ได้แก่ ความรู้ตามหลักวิชาการ ได้แก่ ความรู้ด้านสังคมวิทยา ชุมชนศึกษา ประวัติศาสตร์ชุมชนและสิ่งแวดล้อมศึกษา ความรู้ด้านจิตสำนึกสาธารณะของผู้เรียนตลอดจนการประยุกต์นำความรู้สู่การปฏิบัติจริง ประการที่สอง เพื่อประเมินความพึงพอใจต่อกระบวนการเรียนรู้ของผู้มีส่วนร่วมในวิชาจิตสำนึกสาธารณะเพื่อชุมชน ได้แก่ ความพึงพอใจของนักศึกษาต่อการจัดโครงการและกิจกรรมของคณะผู้สอน ความพึงพอใจของชุมชนต่อการให้บริการชุมชนของนักศึกษา และความพึงพอใจของนักศึกษาต่อการจัดการเรียนการสอนของคณะผู้สอน
ผู้วิจัยใช้วิธีระเบียบวิธีวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) ร่วมกับระเบียบวิธีวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) สนามวิจัยประกอบด้วยห้องเรียนที่เป็นทางการ และห้องเรียนซึ่งเป็นพื้นที่ชุมชนโดยรอบมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ได้แก่ ชุมชนท่าทราย ชุมชนตลาดบางเขน ชุมชนเทวสุนทร ชุมชนร่วมพัฒนา ชุมชนเกาะเกร็ดและชุมชนแจ้งวัฒนะ 5 ประชากรหลักเป็นนักศึกษาที่ลงทะเบียนวิชาจิตสำนึกสาธารณะเพื่อชุมชน ภาคการศึกษาที่ 2 ปีการศึกษา 2552 ถือเป็นการคัดเลือกอย่างแบบเฉพาะเจาะจง (Purposive Sampling) จำนวน 150 คนและตัวแทนชุมชนเพื่อประเมินความพึงพอใจการให้บริการชุมชนของนักศึกษา ซึ่งมีจำนวน 10 กลุ่มกำหนดกลุ่มละ 30 คน รวมทั้งสิ้น 300 คน การประเมินผลการเรียนรู้ตามวัตถุประสงค์รายวิชาด้านหลักวิชาการและจิตสำนึกสาธารณะของนักศึกษาใช้แบบประเมินเพื่อประเมินการทั้งก่อนและหลังเรียน (Pretest and Posttest) โดยผู้วิจัยเลือกใช้สถิติ t-test และสถิติอื่นๆได้แก่ ความถี่ ร้อยละ และค่าเฉลี่ย ( ) เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลโดยเปรียบเทียบผลการประเมินก่อนและหลังการเรียนรู้ ส่วนการประเมินด้านการนำความรู้ไปประยุกต์ใช้เก็บข้อมูลจากการประเมินโครงการบริการชุมชนของนักศึกษา การประเมินความพึงพอใจของผู้มีส่วนร่วมในกระบวนการเรียนรู้ในรายวิชาฯใช้แบบประเมินวัดด้วยมาตราส่วนแบบลิเคิร์ท โดยมีระยะเวลาเก็บข้อมูลเวลาเดียวและอาศัยเทคนิควิธี 2 อย่างได้แก่ การสังเกตและการสัมภาษณ์แบบไม่เป็นทางการ
ผลการศึกษาพบว่า ผลทดสอบความแตกต่างของคะแนนค่าเฉลี่ยก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยสถิติ T-Test ที่ระดับนัยสำคัญ 0.05 พบว่านักศึกษามีการเรียนรู้เพิ่มขึ้นโดยคะแนนเฉลี่ยหลังเรียนมีค่ามากกว่าก่อนเรียน 2.79 การประเมินด้านการนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ นักศึกษาสามารถนำความรู้ที่เรียนไปปฏิบัติจริงในลักษณะการเขียนโครงการและให้บริการแก่ชุมชนได้ในระดับมาก โดยได้รับคะแนนประเมินอยู่ในระดับคะแนน 4.33 จากคะแนนเต็ม 5 ผลความพึงพอใจของนักศึกษาต่อการจัดโครงการและกิจกรรมของคณะผู้สอนโดยเฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 4.21 หรือมีความพึงพอใจในระดับมาก ผลการประเมินความพึงพอใจของชุมชนต่อการให้บริการของนักศึกษาโดยเฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 4.11 หรือมีความพึงพอใจในระดับมาก ผลการประเมินความพึงพอใจของนักศึกษาต่อผู้สอน โดยเฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 4.49 หรือมีความพึงพอใจในระดับมาก

This study originated from a need to evaluate the subject Public Mind for Community for developing teaching methods with two purposes 1) To evaluate learning achievement of students 2) To evaluate the satisfication among stakeholders in process of learning the subject Public Mind for Community. The data was collected by pretest and posttest evaluation, questionnaire, participant observation and informal interviews of 150 Dhurakijpundit University undergraduate students who registered in subject Public Mind for Community in second session of the academic year 2009 and 300 local people from 6 communities located around DhurakijPundit University.
This study shows that posttest learning achievement scores were higher than pretest score at the .05 level of significance. The ability of students applying knowledges through service projects has scored at 4.33 from 5.00. The students have satisfied learning process by service learning project average 4.21. The communities have satisfied service project serving by students average 4.11. The students have satisfied teaching process average 4.49

---