การสำรวจทัศนะเกี่ยวกับการประยุกต์ใช้วิชาต่างๆภายใต้ขอบข่ายรัฐประศาสนศาสตร์ของนักวิชาการและผู้บริหารองค์การภาครัฐ : กรณีศึกษาองค์การภาครัฐจังหวัดนนทบุรี

งานวิจัยชิ้นนี้มีวัตถุประสงค์ 2 ประการคือ (1) เพื่อต้องการทราบทัศนะของนักวิชาการรัฐประศาสนศาสตร์ที่มีต่อขอบข่ายของสาขาวิชาทั้งในเชิงวิชาการและการนำไปประยุกต์ใช้ และ (2) เพื่อต้องการทราบว่าวิชาหลักใดภายใต้ขอบข่ายรัฐประศาสนศาสตร์ในฐานะของผู้ใช้บัณฑิตสาขารัฐประศาสนศาสตร์ที่มีความสำคัญและมีความจำเป็นต่อการนำไปประยุกต์ใช้ในงานจริง ทั้งนี้จึงกำหนดกลุ่มตัวอย่างเพื่อตอบสนองวัตถุประสงค์ข้างต้น โดยการสัมภาษณ์กับกลุ่มตัวอย่างรวม 31 คน จาก 2 กลุ่ม ประกอบด้วยนักวิชาการ 16 คน และผู้บริหารองค์การภาครัฐของจังหวัดนนทบุรี 15 คน
ผลการวิเคราะห์สรุปได้ดังนี้
(1) ทัศนะของนักวิชาการแบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนแรก ทัศนะในเชิงวิชาการ ส่วนใหญ่เห็นว่าขอบข่ายของรัฐประศาสนศาสตร์แบ่งเป็นวิชาหลักได้ และถ้าต้องการพิจารณาจุดเน้นของแต่ละวิชาสามารถกระทำได้โดยแยกรายวิชาหลักต่าง ๆ เหล่านั้นให้เป็นหัวเรื่องย่อยๆ สำหรับวิชาที่มีความสำคัญมากที่สุดมีความเห็นเป็น 2 ฝ่าย ฝ่ายหนึ่งเห็นว่าไม่สามารถระบุได้ แต่อีกฝ่ายหนึ่งเสนอว่าวิชาหลักรัฐประศาสนศาสตร์น่าจะเป็นวิชาที่มีความสำคัญมากที่สุด ส่วนที่สอง ทัศนะในเรื่องการนำวิชาต่าง ๆ ไปประยุกต์ใช้ นักวิชาการเห็นว่าไม่มีวิชาใดที่สำคัญมากที่สุด แต่ที่สำคัญรอง ๆ ลงมาน่าจะเป็นวิชาที่เน้นองค์ความรู้เดิมและองค์ความรู้ใหม่ต่าง ๆ ทั้งนี้นักวิชาการเห็นว่าโดยภาพรวมวิชาต่าง ๆ สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้มาก แต่เสนอแนะว่าควรปรับให้สอดคล้องกับบริบทของสังคมไทย
(2) ทัศนะของผู้ใช้บัณฑิตซึ่งในที่นี้คือผู้บริหารองค์การภาครัฐมีทัศนะแบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนแรก ทัศนะในเชิงวิชาการ ผู้บริหารองค์การภาครัฐกลุ่มตัวอย่างเห็นว่าองค์ความรู้ด้านรัฐประศาสนศาสตร์ คือ ทฤษฎีด้านการบริหารประเทศและองค์ความรู้ที่เน้นเรื่องการให้บริการ สาธารณะโดยแยกเป็นขอบข่ายย่อยๆมากถึง 12 ขอบข่าย ส่วนที่สอง ทัศนะในเรื่องการนำวิชาต่าง ๆ ไปประยุกต์ใช้ ผู้บริหารองค์การภาครัฐเห็นว่าวิชาที่มีความสำคัญมากที่สุด คือ วิชาการเมืองและนโยบายสาธารณะ วิชาที่มีความสำคัญรอง ๆ ลงมา คือ วิชาเทคนิคทางการบริหาร นอกจากนี้กลุ่มตัวอย่างเห็นว่าโดยภาพรวมวิชาต่าง ๆ สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้มาก แต่เสนอแนะว่าควรมีการขยายขอบข่ายให้ครอบคลุมการแก้ปัญหาในระดับที่กว้างขวางขึ้นโดยเฉพาะในระดับประเทศ

This research has 2 objectivities which were (1) to examine the viewpoint of Public Administration academic about scope both of academic and applied situation (2) to find out core subject in Public Administration’s scope which is essential to apply in actual work from the view point of public organization administrator by structured interview 31 samples (16 academics and 15 public organization administrator).
(1) Academic’s viewpoint is divided into 2 parts. Part I, in the academic matter, most of all agree that P.A.’ s scope can divide into core subject and can categorize into subsection to understand essential feature. For the point of most important subject, they have 2 sides : not certainly subject and P.A. Principle. Part II, in the applied matter, most of sample believe that no subject is the most important but the secondary subject are classic and recent knowledge of P.A. By all means, core subject in P.A.’ s scope can positively apply in acuter work but they must adjust to concurrence with Thai society.
(2) Public organization administrator’s viewpoint is divided into 2 parts. Part I, in the academic matter, samples agree that P.A. means the theory of state administration and knowledge about public service and can divided into 12 sub subjects (from the point of view of P.A.’ s scope of this research ) . Part II, in the applied matter, public organization administrator said that the most important subject is politic and public policy and administration technique is placed beneath . All in all , P.A. in their opinion can positively apply but they must enlarge to broader agenda of national problem .

---