ปัญหาความยากจนของบุคคลและครัวเรือนในชุมชนแออัดในเขตกรุงเทพมหานคร

บทคัดย่อ

ความยากจนในประเทศไทย ปรากฏอยู่ทั่วไปทั้งในชุมชนเมืองและชุมชนชนบทและตั้งแต่อดีต จนถึงปัจจุบัน ความยากจนส่งผลกระทบต่อสังคมและความเป็นอยู่ของชาวชุมชนแออัดเป็นอันมาก ทั้งเป็น ภาวะที่รัฐและองค์กรเอกชนต้องแบกภาระเพื่อแก้ไขปัญหาตลอดมา งานวิจัยเรื่องนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาถึงสาเหตุที่แท้จริงของความยากจนของบุคคลและครอบครัว ในชุมชนแออัด และวิธีการแก้ปัญหาความยากจนโดยภาครัฐบาลและเอกชนรวมทั้งเพื่อหาข้อสรุปการแก้ไข ปัญหาความยากจนที่เหมาะสมและเป็นไปได้ ประชากรที่ศึกษา คือ ชุมชนแออัดขนาดใหญ่ที่มีประชาชนอาศัยอยู่ 1,000 ครอบครัวขึ้นไป โดยใช้ วิธีการสุ่มแบบแบ่งชั้นภูมิจำนวน 200 ครอบครัว และข้อมูลทุติยภูมิจากหน่วยราชการและองค์กรเอกชน การ วิเคราะห์ข้อมูลใช้วิธีการวิเคราะห์เชิงคุณภาพเพื่อวิเคราะห์ปัญหา แนวทางแก้ไข และการประเมินเพื่อแก้ไข ปัญหาความยากจน ผลการวิจัยสรุปได้ว่าขณะที่ความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจมหภาคของประเทศสูงขึ้น แต่ความ เป็นอยู่ของบุคคลและชุมชนแออัดในเขตเมือง และปริมณฑลกลับเสื่อมถอยลง สาเหตุส่วนหนึ่งเนื่องมาจาก การที่มีคนยากจนในชนบทเป็นจำนวนมากได้อพยพเข้ามาหางานทำในเมืองเพิ่มขึ้นแต่ไม่สามารถหางานทำ ได้ทั้งหมด หรือที่ได้งานทำก็มีรายได้อยู่ในเกณฑ์ที่ต่ำ ปัญหาความยากจนซึ่งเกิดขึ้นกับบุคคลและครัวเรือนในชุมชนแออัดมีสาเหตุจากการขาดสมรรถนะ ในการประกอบอาชีพ เนื่องจากการระดับความรู้ความสามารถในการประกอบอาชีพอยู่ในเกณฑ์ต่ำ คาด โอกาสและทุนทรัพย์ที่จะพัฒนาตนเองจึงไม่สามารถที่จะได้ทำงานที่มีรายได้สูง ๆ และไม่มีทุนทรัพย์ที่จะได้ ในการศึกษาฝึกฝนสำหรับตนเองและบุคคลในครอบครัวเป็นการยากที่จะหนีจาก วัฏจักรแห่งความยากจน ได้ เว้นเสียแต่ว่าทางการและองค์กรเอกชนจะได้เข้ามาให้ความช่วยเหลืออย่างจริงจัง ข้อเสนอแนะ รัฐบาลโดยหน่วยราชการที่เกี่ยวข้องควรมีมาตรการและโครงการดังต่อไปนี้ 1. 1. การลงทุนพัฒนาประสิทธิภาพ ได้แก่ การให้การฝึกอบรมควรรู้และปฏิบัติการในด้านต่าง ๆ เช่น ด้านการประกอบอาชีพ ด้านการจัดการ การบริการ สุขอนามัยรวมทั้งการพัฒนาทัศนคติและค่านิยม 2. 2. การส่งเสริมให้บุคลและครอบครัวมีความรู้ ทักษะ เงินทุน ด้านใดในการทำอาชีพเสริม และ ตลาดในบางอาชีพเพื่อทำให้ครอบครัวมีรายได้เพิ่มขึ้น 3. 3. การจัดหางานให้บุคคลในชุมชนได้มีงานทำ 4. 4. การส่งเสริมการประกอบอาชีพส่วนตัวหรืออาชีพอิสระให้กับราษฎรในชุมชนที่ไม่สามารถ หางานทำในระบบของตลาดแรงงานได้ 5. 5. การตั้งองค์กรทางเศรษฐกิจของชุมชน เช่น สหกรณ์ร้านค้า สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน หรือ กลุ่ม ออมทรัพย์เพื่อให้ชุมชนมีความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจและช่วยเหลือซึ่งกันและกันทางการเงินได้ 6. 6. การปรับเปลี่ยนหรือปรับปรุงมาตรการและนโยบายเศรษฐกิจมหภาค ให้มีผลโดยตรงต่อ บุคคลและครอบครัวที่ยากจน เช่น การลดช่องว่างระหว่างคนรวยกับคนจนการให้ความช่วยเหลือทางด้าน สวัสดิการสังคมแก้ผู้มีรายได้น้อย เป็นต้น

Abstract