52 ปี DPU..ที่นี่มีเรื่องราว

 ฮัลโหลลล!! DPU ครบรอบ 52 ปีแล้วนะ รู้ยัง ? #DPUที่นี่มีเรื่องราว
มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (DPU) หนึ่งในสถาบันอุดมศึกษาเอกชนของไทย ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2511
ปัจจุบันเปิดการเรียนการสอนในระดับปริญญาตรี ปริญญาโท และปริญญาเอก ขับเคลื่อนด้วย 6 วิทยาลัย และ 6 คณะ ที่ตอบโจทย์ทิศทางของอนาคต
DPU มีเรื่องราว มีเรื่องเล่า มากมายในรั้วแห่งนี้ มาตามอ่านกันเลยค่ะ
 smiley 

dpu
 

“รู้หรือไม่ ?"

  • มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ หรือ Dhurakij Pundit University มีชื่อย่อ DPU 
  • DPU เป็นหนึ่งใน 3 ม.เอกชนรุ่นบุกเบิก อีกสองที่คือ ม.กรุงเทพ และ ม.หอการค้าไทย
  • เป็นมหาวิทยาลัยที่มีการพัฒนาการด้านบุคลากรสูง เป็นอันดับต้นๆ ของประเทศ วัดได้จากอาจารย์ประจำมีผู้จบจากต่างประเทศ และเป็น Guru ในด้านการสอนในแต่ละวิชาของตัวเอง ถึง 98%
  • ปัจจุบันตั้งอยู่ที่ริมคลองประปา ถนนประชาชื่น บนเนื้อที่กว่า 100 ไร่ นับเป็นมหาวิทยาลัยเอกชนในเขตกรุงเทพที่มีเนื้อที่มากที่สุด (เพราะม.เอกชนใหญ่ๆ ส่วนใหญ่จะอยู่รอบนอก)

    dpu
     
  • ผู้ก่อตั้งมหาวิทยาลัย คือ ดร.ไสว สุทธิพิทักษ์ และอาจารย์สนั่น เกตุทัต ด้วยปณิธานที่ตรงกัน “จะทำงานด้านการศึกษา เพื่อประโยชน์แก่สังคมและประเทศชาติ”
  • ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2511 ด้วยสถานภาพเป็นโรงเรียนราษฎร์ ชื่อ “ ธุรกิจบัณฑิตย์” และเติบโตเป็น “วิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์” ในปี พ.ศ. 2513 และเป็น “มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์”ในปี พ.ศ.2527
  • วันที่ 30 พฤษภาคม ของทุกปี นับเป็นวันสถาปนาและรำลึกผู้ก่อตั้งมหาวิทยาลัย 
  • อดีตเคยตั้งอยู่ริมคลองประปาถนนพระราม 6 ต่อมาได้เปลี่ยนสถานภาพเป็นวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ในปี พ.ศ. 2513 และเลื่อนฐานะเป็น “มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์” ในปี พ.ศ. 2527
  • อธิการบดีคนปัจจุบัน คือ ดร.ดาริกา ลัทธพิพัฒน์ ทายาทรุ่นที่ 3 ของผู้ก่อตั้งมหาวิทยาลัย ทั้งสวย เก่ง มีวิสัยทัศน์ด้านการพัฒนาศึกษาอันดับต้นๆของประเทศเลย อาทิการออกมาแสดงความเห็นผ่าน #ChangeEduTH แฮทแท็กยอดฮิตที่สร้างกระแสมาแล้วชั่วข้ามคืน

    dpu
     
  • เป็นเหมือนเมืองเล็กๆ สีเขียว ร่มรื่นด้วยต้นไม้ใหญ่ สวนหย่อม สระน้ำ มีเต่า ปลา กระรอกออกมาทักทาย น่าเรียน น่าทำงาน การันตีด้วยได้รับรางวัล ”เหรียญทอง” ในฐานะที่เป็นผู้ผ่านการตรวจรับรองจากกระทรวงสาธารณสุข ตามโครงการสถานที่ทำงานน่าอยู่ น่าเรียน เป็นต้นแบบของสถาบันการศึกษาที่ครบทั้งความสะอาด ปลอดภัย ไร้มลพิษ มีชีวิตชีวา นอกจากนี้ยังได้รับพระราชทานรางวัล “พฤกษานคราเหรียญเชิดชูเกียรติ” จากสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในฐานะผู้ชนะเลิศการประกวดโครงการแมกไม้มิ่งเมือง ระดับหน้าบ้านหน้ามอง ประเภทมหาวิทยาลัยในสวน

    dpu

 

  • ตราสัญลักษณ์ของมหาวิทยาลัย คือ ตราพระสิทธิธาดา สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวธุรกิจบัณฑิตย์เคารพนับถือ มาต้องไหว้ ไปต้องลา ยิ่งช่วงสอบนะ จะขอเป็นพิเศษ ^^ หลายคนก็เรียกเด็กที่เรียนที่นี้ว่า “ลูกพระสิทธิ์” 
  • สีประจำสถาบัน คือ ม่วง-ฟ้า ซึ่งสีม่วง หมายถึง อุตสาหกรรม ส่วนสีฟ้า หมายถึงการค้า ซึ่งสีม่วง-ฟ้า หมายถึง การดำเนินงานธุรกิจ  
  • ต้นไผ่ คือต้นไม้ประจำสถาบัน 
  • ปรัชญา คือ นักธุรกิจเป็นผู้สร้างชาติ
  • มีทุนการศึกษาหลากหลายประเภท มอบให้กับนักศึกษาทุกๆปี ทั้งด้านวิชาการ กิจกรรม ความสามารถพิเศษ ศิลปิน ต่างๆ
  • มีหอพักกว่า 9 แห่ง ที่เป็นของมหาวิทยาลัย มีกฏระเบียบชัดเจน อยู่แล้วปลอดภัย และมีหอพักของเอกชนบริเวณใกล้เคียง ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานจากมหาวิทยาลัย กว่า 60 แห่ง 
  • เป็น ม.เอกชนที่อาจารย์มีความรัก ความผูกพันกับนักศึกษามากที่สุด เรียกพ่อ เรียกแม่ได้เลย 
  • ซอย 8 หน้า ม. เป็นแหล่งที่อยู่ของเด็กต่างจังหวัด เด็กหอเยอะมาก มีร้านข้าวขาหมู ซุปเปอร์ในตำนานด้วยนะ ทุกวันนี้ก็ยังคงมีอยู่ อร่อยต้องไปลอง 
  • ซอย 8 /ซอย 7 /หลังมอ / ท่าทราย และระแวกใกล้ๆ มีหอพักเยอะมาก เช้า สาย บ่าย เย็นยันค่ำ เราก็จะเห็นนักศึกษาเดินกันเยอะมากทั้งไทยทั้งจีน หลายคนบอกเหมือนมณฑลจีนย่อมไปละ 

    dpu
  • เมื่อก่อนถ้าใครไปซื้อของกินในศูนย์อาหารตอนช่วงเช้าหรือเย็นๆ หรือเรียกง่ายๆ ว่าช่วงไม่ค่อยมีคนน่ะแหละ อย่าพยายามซื้อข้าวไปวางอยู่ใกล้ทางออก แล้วไปซื้อน้ำหรือเข้าห้องน้ำโดยเด็ดขาด เพราะบรรดานกจะบินมาแทะอาหารทั้งจานจนไม่มีชิ้นดี แต่ตอนนี้ไม่มีแล้ว เพราะศูนย์อาหารรีโนเวทหมด สวยงามขึ้น ระบบจัดการดีขึ้น แถมมีห้องอาหารติดแอร์บรรยากาศดีเชียว 
  • ป้า เรย์..คือสมญานามที่บรรดานักศึกษา และอาจารย์เรียก “แม่บ้าน” ที่มีหน้าตั้งแต่ทำความสะอาดห้องน้ำ เปิด-ปิดไฟ และแอร์ ป้าเรย์บางคนสามารถแก้ไขคอมพิวเตอร์ได้ด้วยนะ เจ๋งอ่ะ!! (เหตุผลที่เรียกแม่บ้านทุกคนใน ม.ว่า ป้าเรย์ เพราะแม่บ้านที่ ม. จะใส่เสื้อเหลือง และเขียนข้างหลังว่า RAY) แต่ปัจจุบันไม่ค่อยเรียกละ เพราะ “แม่บ้าน” เปลี่ยนเครื่องแบบดูทันสมัยไปอีกแบบ

    dpu
  • DPU Library หอสมุดของที่นี่เลิศมาก ได้ฟิวสบาย ผ่อนคลาย จะอ่านหนังสือหรือนั่งติว รับรองสมาธิมากเต็ม มาพร้อมกับอากาศระดับขั้วโลกใต้ (แอร์หอสมุดสุดหนาว) ที่ไม่ได้หนาวธรรมดาแต่หนาวมาก อิอิ บรรยากาศสวยระดับอินเตอร์ มีโซนดัง โซนเงียบ มี Coffee Shop ทำให้นอกจากอ่านหนังสือ ดู หนังฟังเพลง จิบกาแฟ ของว่างแล้ว วันไหนนอนน้อย หลายคนก็มาแอบงีบหลับอยู่ที่นี้แหละ แฮร่ๆ 
  • บัตรนักศึกษารุ่น 47 เป็นรุ่นสุดท้ายที่เป็น ATM ในตัว รุ่น 48 เป็นต้นไปเป็นบัตรธรรมดา แต่ล่าสุด ปี 62 ไม่มีบัตรนักศึกษาแล้ว แต่อัพเดทเป็นแอปพลิเคชัน “DPU Plus” ซึ่งจะใส่ข้อมูลนักศึกษาไว้ สามารถใช้ยืนยันตัวตนนักศึกษาได้เลย
  • เมื่อก่อนนักศึกษาส่วนใหญ่เป็นคนใต้ ใครที่มาที่นี่เป็นครั้งแรกอาจจะเข้าใจผิดได้ว่า ตัวเองยังอยู่ในกทม. อยู่หรือเปล่า? เพราะไปทางไหนก็แหรงใต้กันหมด แต่ปัจจุบันเฉลี่ยแล้วเด็กๆ ก็มาจากทุกภาคนั้นหละ กทมก็เยอะมาก
  • คาดว่าเป็นมหาวิทยาลัยที่มีห้องน้ำมากที่สุด ประมาณ 170 ห้องใหญ่ เพราะใน 1 ชั้นบางตึกมีถึง 3 ที่ ที่ละ 10 กว่าห้อง (มีทุกชั้น แถมมีห้องน้ำสำหรับอาจารย์แยกต่างหากอีก) ห้องน้ำติดแอร์ก็มีนะ ^^ 
  • เด็ก DPU เลิกเรียนแล้วไปไหน เดอะมอลล์งามวงศ์วานไง แกรนด์ไง ^^ แหล่งช้อปใกล้มอที่สุด ราคาไม่แรง เดินทางสะดวก 
  • มีรถเมล์ผ่านหน้ามหาวิทยาลัย รถเมล์สาย 24 66 และ 70 เท่านั้น แต่ก็มีรถตู้ กับสองแถว สีเหลือง สีฟ้า 
  • ระบบการลงทะเบียนของที่นี่ บังคับให้ลงเรียนตามเลขทะเบียนเท่านั้น (สำหรับวิชาบังคับ) เพื่อป้องกันความวุ่นวาย และสับสน แต่ก็มีหลายคนฝืนข้อบังคับนี้

    dpu 
  • DPU มีศาลาเรือนไทย กว่า 10 ล้าน ตั้งอยู่ในบ่อเต่าหน้าตึก 6 จะสวยมากตอนช่วงรับปริญญา กับลอยกระทง เพราะถูกแต่งด้วยดอกไม้ แสงสีสวยงาม 
  • เด็กที่จะมาสมัครเรียนที่ DPU พอลงรถประจำทางจะรู้สึกธรรมดา ไม่ตื่นเต้นสักเท่าไหร่ แต่พอได้เข้าไปในเขตมหาวิทยาลัยจะมีความสุขกับบรรยากาศที่สวยงามเหมือนได้มาเที่ยวรีสอร์ท แถมรุ่นพี่ อาจารย์ก็ดูแลดี๊ดี ปลุกมาเรียน ตามส่งงาน อยู่ที่นี้ไม่ใช่ระบบตัวใครตัวมันนะ แต่เราจะเป็นระบบครอบครัวมากกว่า 
  • เป็นมหาวิทยาลัยที่สะอาดมาก มีการปูหินแบบตัวหนอนมากที่สุด (ปูทั้งมหาวิทยาลัย อิอิ ) ใบไม้ร่วงแล้วเก็บ 
  • นักศึกษาที่จะออกไปฝึกงานได้นั้น ต้องมีลายเซ็น เพื่ออนุมัติการฝึกงาน ประกอบไปด้วยลายเซ็น อาจารย์ที่ปรึกษา คณะบดี อธิการบดี และเข้มข้นสุดๆด้วยการโครงการสหกิจศึกษา เด็กๆ จะสามารถไปฝึกงานได้ 1 ปีเต็มก่อนจบ ซึ่งโครงการนี้จัดว่าเด็กกะทิ เด็กคุณภาพสุดๆ ส่วนใหญ่จบแล้ว มีงานทำทันที 
  • ศิษย์ที่จบจากที่นี่จะมีความภูมิใจ รักสถาบัน บางคนที่ยังไม่มีโอกาสได้มาเรียน หรือไม่เคยได้เข้ามาสัมผัส จะไม่มั่นใจเพราะคิดว่า เป็นม.เอกชน แต่ๆๆๆ ใครที่ไม่มั่นใจ ก็อยากลองให้เข้ามาดู แล้วจะรู้ถึงความประทับใจในหลายๆ อย่าง ไม่ว่าจะโอกาส และความสำเร็จที่จะได้รับจากม. แห่งความผูกพันแห่งนี้ ก็อย่างที่บอกแหละว่า ที่นี่เราเป็นระบบครอบครัว 

    dpu
  • นศ. ปี 1 หลายคน วันปฐมนิเทศและสัปดาห์แรกของการเรียนมักจะแต่งตัวเรียบร้อย แต่พอเข้าสัปดาห์ที่ 2 จะเริ่มมีรองเท้าผ้าใบหลากสีและกางเกงยีนส์ เสื้อยืด เสื้อโปโลวิทยาลัย/คณะให้เห็นกันมากขึ้น
  • นศ.คณะนิเทศศาสตร์หลายคนมักสงสัยว่า มีเรียนถ่ายภาพแล้วอาจารย์จะบังคับให้ซื้อกล้องมั้ย ที่นี่อาจารย์จะไม่บังคับให้ซื้อกล้อง เพราะอาจจะทำให้เด็กและผู้ปกครองลำบากเรื่องค่าใช้จ่าย แต่เดี๋ยวนี้เด็กๆก็เก่งนะ ทำงานเก็บเงินซื้ออุปกรณ์การเรียนเอง จ่ายค่าเทอมเอง เรียกได้ว่าส่งตัวเองเรียน แบ่งเบาภาระผู้ปกครองไปได้เยอะเลย น่าชื่นชม ชื่นใจจริง ปรมมือรัววว
  • ที่นี่มีนโยบายห้ามรับน้องนอกสถานที่โดยเด็ดขาด เพราะเป็นห่วงนศ. แต่จัดภายในแบบกิจกรรมสานสัมพันธ์พี่น้องมากกว่า เล่นกันพอน่ารัก สนุกสนาน ไม่ให้น้องต้องเจ็บตัวและเจ็บใจ อบอุ่นไปอี๊ก
  • ห้องน้ำที่หรูที่สุด หลายคนบอกว่าห้องน้ำตึกอธิการบดี จะอยู่ที่หน้าลิฟท์ตัวที่ตั้งบริเวณสวนกลางตึก ทางเข้าเป็นสวนเล็กน้อย สะอาด ดูดี เข้าไปครั้งแรก ความรู้สึกเหมือนมา spa (เหมือนจะเคยเห็นน้ำมันหอมระเหยด้วย) โอ๊ะโอ นั่งยาวไป ยาวไป แต่ๆ ตอนนี้ไม่ใช่แค่ที่นี้และ หลายตึกก็รีโนเวทใหม่ ห้องน้ำก็สวยงามน่าใช้ทันสมัยไปอีก

    dpu
  • สนามฟุตบอล และโรงยิมของที่นี่แทบไม่เคยเว้นการใช้งาน เพราะเปิดให้หน่วยงานภายนอกได้มาใช้สถานที่ด้วย ตกเย็นก็จะมีทีมนักกีฬาฟุตบอลมาดวนแข้งกันทุกวัน แถมยังมีหนุ่มๆ สาวๆ มาวิ่งออกกำลังกายรอบสนามเลย 
  • นศ.ที่เข้ามาเรียนที่นี่มาจากหลายจังหวัดและหลายฐานะ แต่ทุกคนก็เป็นเพื่อนกันได้
  • นศ.ต่างชาติที่มาเรียนส่วนใหญ่เป็นชาวจีนแผ่นดินใหญ่
  • ใต้ตึก 7 ลมพัดแรงมาก จนนศ.หญิงที่ใส่กระโปรงพลีทต้องระวังกันสุดๆ 
  • ถนนภายในมหาวิทยาลัยที่ตรงมาจากประตูฝั่งคลองประปา ถูกตั้งชื่อว่า ถนนกดดัน เพราะเวลาเดินผ่านที่นั่งข้างๆถนนมักจะถูกจ้องมองกันประจำ กดดันไปสิ

    dpu
  • ที่มี Blackconyon Coffee (ราคาถูกกว่าที่อื่น) และยังมีร้านกาแฟ กว่า 8 ร้าน กระจายอยู่แทบทุกจุดอะ เดินไปตึกไหนก็เจอ ที่เด็ดกว่านั้นคือร้าน Blend Cafe คาเฟ่ไอเดียเท่ ที่อยู่ใต้อาคาร 6 อยากโชว์ว่า Blend Cafe เข้าชิงรางวัลประเภท Café และ ติด 1 ใน 14 ร้านเข้าชิงรางวัลประเภท "In Another Space" ในงานออกแบบระดับโลก “Restaurant & Bar Design Awards 2019” 
  • เด็กที่นี้จะได้เรียนการเขียนแผนธุรกิจทุกคน ไม่ต้องรอจบก็ทำธุรกิจได้เลย

    dpu
  • มีห้องเรียนแนวใหม่ Makerspace เป็นพื้นที่ระเบิดไอเดีย สร้างสรรค์ผลงาน ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย บริเวณชั้น 3 ของห้องสมุด ที่เด็กทุกๆวิทยาลัย/คณะ มาใช้พื้นที่ร่วมกัน สร้างสรรค์ไอเดียธุรกิจได้เลย
  • มีเครื่องบินจริง ที่ปลดประจำการละ นำมาคืนชีพใหม่ทำเป็นห้องเรียน ห้องปฏิบัติการของเด็กเรียนการบิน หรือ เด็ก CADT ใครผ่านไปผ่านมาหน้ามอจะมองเห็น เพราะตั้งเด่นตระหง่านตรงข้ามกับประตูหน้ามอ ฝั่งปากซอย 8 นั่นเอง หรือเดินบนสะพาน

    dpu