"หมี กรธวัช" หนุ่มนักกฎหมายเลือดใหม่
แนะนำตัวกันหน่อย
หมี "กรธวัช ตาเจริญ" หนุ่มนักกฎหมายเลือดใหม่
จากคณะนิติศาสตร์ปรีดี พนมยงค์ ม.ธุรกิจบัณฑิตย์ หนุ่มหน้าใสที่มีมุมมองความคิดดีๆ และความมุ่งมั่นในอนาคตที่อยากจะเป็นตำรวจช่วยเหลือประชาชน
จุดเริ่มต้นที่อยากเรียนนิติศาสตร์
ผมอยากเป็นตำรวจมาตั้งแต่เด็ก คิดว่าตำรวจเป็นอาชีพที่ใกล้ชิดประชาชน เราได้ช่วยเหลือคน พอจะเริ่มเลือกคณะ ก็ดูว่ามันมีสองคณะที่เรียนแล้วจบไปเป็นตำรวจได้ คือ นิติศาสตร์ กับ รัฐศาสตร์ ผมก็มองว่า ถ้าเลือกนิติศาสตร์ ถ้าเรียนสายนี้แล้วชอบ อาจจะไปสอบเป็นอัยการหรือผู้พิพากษาด้วยก็ได้ แต่คณะรัฐศาสตร์ทำไม่ได้ บวกกับแม่ผมจบนิติศาสตร์ที่นี่ด้วย แม่ก็สนับสนุน ผมก็เลยเลือกสายนี้ เข้ามาแล้วสอบและได้ทุนเรียนดีของที่นี่
บรรยากาศตอนเรียนเป็นไงบ้าง
ตอนแรกคิดว่าเพื่อนๆ คณะนี้จะขรึมๆ นิ่งๆ แต่ผิดคาด ก็เฮฮา สนุกสนานกัน ตอนนี้มีกลุ่มที่สนิทประมาณ 6-7 คน มีโอกาสรับน้องคณะร่วมกัน ก็สนุกดี มีบูมคณะ ร้องเพลง โดนออกไปเต้นด้านหน้าบ้าง (หัวเราะ) แล้วก็โดนรุ่นพี่เลือกให้เป็นเดือนคณะ ไม่รู้ทำไมเหมือนกันนะ อาจจะเพราะผมพูดเก่งมั้ง (ยิ้ม) ตอนนี้ก็อยู่ระหว่างเตรียมตัวเพื่อประกวดดาวเดือนมหา’ลัยต่อไป ถ้าถามถึงเอกลักษณ์ของเด็กคณะนี้ ผมว่าเป็นเรื่องของความเนี้ยบเลย ถึงจะไม่เนี้ยบมาก แต่ก็ดูเนี้ยบกว่าคณะอื่นๆ เพื่อนบางคนผูกไทใส่คัทชูมาเรียนทุกวันก็มี
เทตนิคการเรียนสไตล์เด็กนิติ
ตอนแรกคิดว่าเพื่อนๆ คณะนี้จะขรึมๆ นิ่งๆ แต่ผิดคาด ก็เฮฮา สนุกสนานกัน ตอนนี้มีกลุ่มที่สนิทประมาณ 6-7 คน มีโอกาสรับน้องคณะร่วมกัน ก็สนุกดี มีบูมคณะ ร้องเพลง โดนออกไปเต้นด้านหน้าบ้าง (หัวเราะ) แล้วก็โดนรุ่นพี่เลือกให้เป็นเดือนคณะ ไม่รู้ทำไมเหมือนกันนะ อาจจะเพราะผมพูดเก่งมั้ง (ยิ้ม) ตอนนี้ก็อยู่ระหว่างเตรียมตัวเพื่อประกวดดาวเดือนมหา’ลัยต่อไป ถ้าถามถึงเอกลักษณ์ของเด็กคณะนี้ ผมว่าเป็นเรื่องของความเนี้ยบเลย ถึงจะไม่เนี้ยบมาก แต่ก็ดูเนี้ยบกว่าคณะอื่นๆ เพื่อนบางคนผูกไทใส่คัทชูมาเรียนทุกวันก็มี
นิยามความเป็นเด็กนิติศาสตร์ DPU
ไม่ขี้เกียจ มีวินัย แล้วสิ่งสำคัญเราต้องหัดเป็นคนช่างสงสัย ต้องถามว่า ทำไมต้องทำอย่างนั้นอย่างนี้ ทำไมเขาตัดสินอย่างนี้ เพราะคนเรานั้นคิดต่างกันได้ ซึ่งส่วนใหญ่เพื่อนๆ ในห้องก็จะช่างสงสัยกันหมด แล้วชอบถามอาจารย์กันเยอะมาก (หัวเราะ)
หลังจากที่เรียนแล้ว เป็นไง
หลังจากมาเรียนก็ทำให้ดูข่าวแล้วคิดตามมากขึ้น ว่ามันเกี่ยวกับที่อาจารย์สอนยังไง อย่างคดีที่สนใจและอินมากก็คงจะเป็นเรื่องการตัดสินโทษประหารชีวิต ที่นักวิชาการคัดค้านอยากให้ยกเลิก เพราะหลายประเทศก็มีการยกเลิกกันไป แต่สำหรับประเทศไทย อันนี้ในความคิดผมนะครับ ผมคิดว่ายังไม่ควรจะยกเลิก เพราะเรือนจำบ้านเราสบาย ที่เขายกเลิกในหลายประเทศ เพราะเรือนจำบ้านเขาน่ากลัว คนก็กลัวคุกกัน แต่บ้านเราคนไม่กลัวคุก ถ้าจะยกเลิกจริงๆ ผมคิดว่าควรจะปฏิรูปราชทัณฑ์ใหม่ให้มันโหดกว่านี้ อย่างนักโทษฆ่าหั่นศพหรือทำผิดซ้ำๆ ผมเชื่อว่าการจำคุกแล้วก็ไม่สามารถทำให้เขากลับใจเป็นคนดีได้ โทษประหารอย่างฉีดยาประหาร มันไม่ได้ร้ายแรงเลย ถ้าเทียบกับสิ่งที่เขาทำลงไป
เป้าหมายในอนาคต
อยากรับราชการตำรวจ แล้วก็อยากเป็นตำรวจสายท่องเที่ยว เพราะรู้สึกว่านอกจากจะได้ช่วยเหลือประชาชนและนักท่องเที่ยวแล้ว เราก็ยังได้เปิดประสบการณ์ใหม่ในสถานที่แปลกใหม่ด้วย