“ฟีส ภูรีภัทร” หนุ่ม รปศ. มาดผู้นำ นักพัฒนา

“ฟีส ภูรีภัทร” หนุ่ม รปศ. มาดผู้นำ นักพัฒนา

หนุ่ม รปศ. มาดผู้นำ นักพัฒนา 
ฟีส "ภูรีภัทร วิจิตรธัญญะ" นักศึกษาคณะรัฐประศาสนศาสตร์ 

นิยามของตัวเอง
อาจจะเป็นคนที่คุยสนุกมั้งครับ เพราะเพื่อนๆ ชอบบอกว่า เราเป็นคนที่คุยสนุก เป็นคนชอบพูดอะไรตลกๆ เวลาคุยเรื่องต่างๆ ก็สามารถทำให้เป็นเรื่องตลกได้หมด 

สไตล์เด็ก รปศ.
เด็ก รปศ จะต้องมองความจริงให้รอบด้าน จะต้องไม่หยุดแค่ว่าเรื่องต่างๆ จริงหรือไม่จริง แต่จะต้องหาว่าเรื่องนั้นมันมีจริงกว่านี้อีกไหม เรื่องที่ไม่จริงมันไม่จริงยังไง จะต้องเป็นคนขี้สงสัยพอสมควรเหมือนกัน "อย่ามองความจริงแค่ด้านเดียว แม้ความจริงจะมีเพียงหนึ่งเดียวก็ตาม"

ทำไมถึงเลือกเรียนรปศ.
จริงๆ เป็นคนชอบเรื่องการเมืองอยู่แล้วครับ ติดตามข่าวการเมืองตลอด แล้วเราก็รู้สึกว่า การเรียนการเมือง การเรียนเกี่ยวปรัชญาการเมือง หรือเรื่องหลักการปกครอง มันเป็นอะไรที่ง่ายและถนัดกว่าตอนที่เราเรียนมัธยม เพราะว่าตอนมัธยมเราต้องเรียนหลายวิชาและเราต้องมานั่งจำสูตรนู้น สูตรนี้ แต่พอมาเรียน รปศ. มันแทบไม่ต้องนึกเลย เวลาอาจารย์ถามเราก็สามารถตอบได้เลย เพราะว่า มันไม่มีคำว่าผิดหรือถูกในคลาสเรียน มีแค่ให้เราแสดงความคิดเห็นของเราว่าเรามีความรู้สึกอย่างไรกับเรื่องต่างๆ ซึ่งในถูกความคิดเห็นถ้ามันทำให้ดีขึ้น มันก็เป็นสิ่งที่ถูกต้อง ทำให้ผมชอบเรียน รปศ. ครับ

บรรยากาศในคณะ
ชอบมากครับ บรรยากาศมันรู้สึกสบายๆ การจัดคลาสเรียนก็จัดแบบคนไม่เยอะมากทำให้อาจารย์เข้าถึงนักศึกษาได้ทุกคน ทำให้ทุกคนมีโอกาสได้ถาม ตอบ ตลอดเวลา ส่วนเพื่อนและรุ่นพี่ก็ ค่อนข้างที่จะเป็นกันเองทุกๆคน ตามคำขวัญของ รปศ. ที่ว่า “ก้าวเข้ามา เจ้ากับข้าเป็นพี่น้องกัน” ซึ่งพวกเราทุกคนก็ให้ความสำคัญกับคำว่าพี่น้องจริงๆ ครับ

ความรู้สึกหลังจากได้เรียน 
ก็ได้เรียนแบบที่ตัวเองชอบเลยครับ เป็นการเมืองจ๋า มีหลักการ มีปรัชญา แต่ที่ฉีกกรอบนิดหนึ่งคือ ไม่เคยคิดว่าเด็ก รปศ. จะต้องมาเรียน start up ซึ่งพอมันไปผนวกกับการเรียน รปศ. มันกลายเป็นว่า ในโลกปัจจุบันมันจำเป็นต้องมีผู้นำที่มีความรู้หลายๆด้าน ทั้งในด้านธุรกิจหรือด้านนวัตกรรม ซึ่งมันยิ่งทำให้การเรียน รปศ. สนุกมากๆเลยครับ

เทคนิคการเรียน 
อย่างแรกน่าจะเป็นการที่เราไม่ทิ้งฝันตัวเอง เราต้องตั้งหลักไว้ก่อนว่าเราฝันอยากจะเป็นอะไร อย่างผมอยากเป็นพนักงานรัฐวิสาหกิจ ผมก็จะเลือกเรียน รปศ อีกอย่างคือการเปิดกว้างทางความคิดอันนี้เป็นสิ่งสำคัญ เพราะว่าไม่ว่าเราจะเรียนคณะไหน เราต้องเปิดกว้าง รับข้อมูลทุกอย่าง รับความรู้ทุกอย่าง มันจะรียนรู้เรื่องมากกว่า ที่เราจะมาบอกว่าเราไม่ชอบอันนั้น ไม่ชอบอันนี้ มันก็จะยิ่งทำให้เราเรียนไม่รู้เรื่อง และก็ต้องเป็นคนที่มีวินัย ต้องแบ่งเวลาให้ถูก

ทำกิจกรรมอะไรบ้าง 
พอเข้ามาตอนแรก รุ่นพี่ก็ชี้ให้ไปประกวด เดือนอ่ะครับ พอประกวดก็ได้รางวัล popular ก็สนุกดีครับ นอกจากนั้นยังประกวด MC ก็ได้เป็น MC ของ DPU อีกและรุ่นพี่ก็ต่อยอดให้ลองไปสมัคร ผู้ประกาศข่าวระดับมหาวิทยาลัยที่ช่อง ไบร์ททีวี เราก็เลยไปลอง พอไปลองเราก็ได้เลยทำให้เราได้มีโอกาสได้ไปทำอะไรหลายๆอย่าง ก็ถือว่าเป็น รปศ. ที่ใช้ชีวิตคุ้มนะครับ เพราะได้ใช้ชีวิตกับหลายๆสายงานทั้ง นิเทศและอีกหลายๆคณะ

เป้าหมายในอนาคต
ในอนาคตอยากทำงานรัฐวิสาหกิจอ่ะครับ อาจจะอยู่ฝ่าย HR ก็ได้ หรืออยู่ในแผนปฏิบัติงาน เพราะเรารู้สึกว่า จริงๆแผนพวกนี้ มันอาจจะดูเป็นเหมือนฝ่ายสนับสนุนทางองค์กร แต่ว่ามันมีโอกาสได้พบเจอผู้คนเยอะ อย่างเราเป็น HR เราก็ได้มีโอกาสรับสมัครทั้งคนงาน มีโอกาสได้ดูแผนงาน มีโอกาสได้เจอคน ซึ่งมันเหมาะกับตัวเราที่ชอบพบปะผู้คนอยู่เยอะๆ และก็ชอบทำงานที่ต้องเจอผู้คนเยอะๆ