ประกาศความเป็นส่วนตัวสำหรับผู้เข้าร่วมอบรมหรือสัมมนาหรือกิจกรรม

(Privacy Notice for Training)

          มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (“มหาวิทยาลัยฯ”) ตระหนักและให้ความสำคัญในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน และมีการปฏิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัยและการรักษาความลับ โดยที่มหาวิทยาลัยฯ จะทำการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน  มหาวิทยาลัยฯ  ให้คำมั่นในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ตามที่พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562

          เพื่อเป็นการปฏิบัติตามหน้าที่ในการแจ้งให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบถึงวัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลตามฐานทางกฎหมาย (Lawful basis) ระยะเวลาการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ข้อมูลเกี่ยวกับผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล และสิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลตามมาตรา 23 ของพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์จึงได้ออกคำประกาศความเป็นส่วนตัว (Privacy Notice) (“คำประกาศ”) ฉบับนี้ ซึ่งจะอธิบายถึงลักษณะและเหตุผลของการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

          มหาวิทยาลัยฯ ขอแนะนำให้ท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้อ่านประกาศนี้อย่างถี่ถ้วนก่อนให้ข้อมูลส่วนบุคคลกับมหาวิทยาลัยฯ  เพื่อให้เข้าใจถึงนโยบายและแนวปฏิบัติของวิทยาลัย ซึ่งเป็นผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล ในการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย (“ประมวลผล”) ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน รวมถึงสิทธิต่างๆ ในข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล หากท่านมีข้อกังวลข้อสงสัยหรือต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับประกาศนี้ตลอดจนถึงประกาศและนโยบายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง โปรดติดต่อมหาวิทยาลัยฯ ตามช่องทางการติดต่อที่ปรากฏท้ายประกาศนี้

1. คำนิยาม

ข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม เช่น คำนำหน้าชื่อ ชื่อ นามสกุล ชื่อกลาง ชื่อเล่น ลายมือชื่อ เลขที่บัตรประจำตัวประชาชน รูปถ่าย สัญชาติ แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ

ข้อมูลส่วนบุคคลประเภทอ่อนไหว หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ถูกบัญญัติไว้ในมาตรา 26 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ซึ่งได้แก่ ข้อมูลเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ หรือข้อมูลอื่นใดซึ่งกระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในทำนองเดียวกันตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลประกาศกำหนด

เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง บุคคลธรรมดาซึ่งเป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่วิทยาลัย เก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย

การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง การดำเนินการใด ๆ กับข้อมูลส่วนบุคคล เช่น เก็บรวบรวม บันทึก สำเนา จัดระเบียบ เก็บรักษา ปรับปรุง เปลี่ยนแปลง ใช้ กู้คืน เปิดเผย ส่งต่อ เผยแพร่ โอน รวม ลบ ทำลาย เป็นต้น

พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หมายความถึง พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 รวมถึงกฎระเบียบ หรือกฎหมายลำดับรองอื่นที่ตราขึ้นโดยอาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562

ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งมีอำนาจหน้าที่ตัดสินใจเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

2. ประเภทของข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวม

มหาวิทยาลัยฯ อาจเก็บรวบรวมหรือได้มาซึ่งข้อมูลดังต่อไปนี้ ซึ่งอาจรวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โดยประเภทของข้อมูลที่ระบุไว้ดังต่อไปนี้เป็นเพียงกรอบการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลสำหรับผู้สมัครเข้ารับการอบรมและผู้เข้ารับการอบรมกับทางมหาวิทยาลัยฯ เป็นการทั่วไป

          ประเภทข้อมูลส่วนบุคคล

รายละเอียดและตัวอย่าง

ข้อมูลเฉพาะตัวบุคคล

ข้อมูลระบุชื่อเรียกของท่านหรือข้อมูลจากเอกสารราชการที่ระบุข้อมูลเฉพาะตัวของท่าน เช่น คำนำหน้าชื่อ ชื่อ นามสกุล ชื่อกลาง ชื่อเล่น ลายมือชื่อ เลขที่ของบัตรประจำตัวประชาชน หนังสือเดินทาง ใบขับขี่ หรือเอกสารอื่น ๆ ที่ออกให้โดยหน่วยงานของรัฐ รูปถ่าย สัญชาติ เป็นต้น

ข้อมูลสำหรับการติดต่อ

ข้อมูลเพื่อการติดต่อท่าน เช่น เบอร์โทรศัพท์บ้าน เบอร์โทรศัพท์เคลื่อนที่ หมายเลขโทรสาร อีเมล ที่อยู่ทางไปรษณีย์บ้าน ชื่อผู้ใช้งานในสังคมออนไลน์

(Line ID, MS Teams) เป็นต้น

ข้อมูลเกี่ยวกับการทำงานและการศึกษา

รายละเอียดการจ้างงาน รวมถึงประวัติการทำงานและประวัติการศึกษา เช่น ประเภทการจ้างงาน อาชีพ ยศ ตำแหน่ง หน้าที่ความเชี่ยวชาญ สถานภาพ ประวัติการดำรงตำแหน่ง ประวัติการทำงาน สถาบันการศึกษา วุฒิการศึกษา เป็นต้น ตามที่ปรากฏในแบบฟอร์มรับสมัครเข้ารับการฝึกอบรมหรือร่วมสัมมนา

ข้อมูลเกี่ยวกับการประเมินผลงาน

ผลการประเมินการเข้ารับการฝึกอบรม ผลคะแนนการทดสอบ เป็นต้น

3. แหล่งที่มาและการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล

          มหาวิทยาลัยฯ จะเก็บรวบรวมหรือได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลประเภทต่าง ๆ จากการที่ท่านเป็นผู้ให้ข้อมูลนั้นกับมหาวิทยาลัยฯ โดยตรง ผ่านแบบฟอร์มรับสมัครเข้ารับการฝึกอบรมหรือร่วมสัมมนาตามขั้นตอนการสมัครและลงทะเบียนเข้าร่วมฝึกอบรม เข้าร่วมกิจกรรมหรืองานสัมมนา หรือเมื่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลติดต่อสื่อสารกับวิทยาลัย ณ สถานที่ทำการหรือผ่านช่องทางติดต่ออื่นที่ควบคุมดูแลโดยมหาวิทยาลัยจัดให้มีขึ้น เป็นต้น เว้นแต่บางกรณีมหาวิทยาลัยฯ อาจได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากบุคคลที่สาม โดยมหาวิทยาลัยฯ เชื่อโดยสุจริตว่าบุคคลที่สามดังกล่าวมีสิทธิเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านและเปิดเผยกับมหาวิทยาลัยฯ  และมหาวิทยาลัยฯ จะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลเท่าที่จำเป็น และใช้ข้อมูลดังกล่าวตามวัตถุประสงค์ที่กำหนด ซึ่งเป็นวัตถุประสงค์ที่ชอบด้วยกฎหมาย หรือเป็นการดำเนินการตามข้อกำหนดของกฎหมายที่ให้มหาวิทยาลัยฯ ต้องจัดเก็บข้อมูลดังกล่าว

ทั้งนี้ ในกรณีที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลปฏิเสธไม่ให้ข้อมูลที่มีความจำเป็นในการให้บริการของมหาวิทยาลัยฯ อาจเป็นผลให้มหาวิทยาลัยฯ ไม่สามารถให้บริการนั้นแก่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวได้ทั้งหมดหรือบางส่วน

4. วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล

มหาวิทยาลัยฯ ดำเนินการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โดยมีวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้

  1. เพื่อพิจารณาสิทธิ์เข้ารับการอบรมหรือสัมมนาหรือร่วมกิจกรรม
  2. เพื่อนำส่งหน่วยงานผู้สนับสนุนทุนช่วยเหลือหรือทุนอุดหนุน ตามเงื่อนไขโครงการฝึกอบรมหรือสัมมนาหรือร่วมกิจกรรม
  3. เพื่อประเมินผลการเข้ารับการฝึกอบรม
  4. เพื่อออกเอกสารรับรองการผ่านการอบรมหรือสัมมนาหรือร่วมกิจกรรม
  5. เพื่อเก็บรักษาและปรับปรุงข้อมูลอันเกี่ยวกับท่าน รวมทั้งเอกสารที่มีการกล่าวอ้างถึงท่าน
  6. การยืนยันตัวตน พิสูจน์ตัวตนและตรวจสอบข้อมูล เพื่อใช้บริการหรือเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ของมหาวิทยาลัยฯ
  7. เพื่อติดต่อให้ข้อมูลประชาสัมพันธ์ข่าวสารและกิจกรรมของมหาวิทยาลัยฯ ในอนาคต

5. การเปลี่ยนแปลงวัตถุประสงค์การใช้ข้อมูลส่วนบุคคล

          มหาวิทยาลัยฯ จะใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ตามวัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวมเท่านั้น ในกรณีที่มหาวิทยาลัยฯ มีความจำเป็นที่จะต้องใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์อื่น มหาวิทยาลัยฯ จะดำเนินการแจ้งให้ท่านทราบและอธิบายถึงฐานทางกฎหมายที่เกี่ยวข้องก่อนหรือขณะดำเนินการดังกล่าว

6. ฐานทางกฎหมายในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล

          พิจารณากำหนดฐานกฎหมายในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามความเหมาะสมและตามบริบทของการให้บริการ ทั้งนี้ ฐานกฎหมายในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลที่มหาวิทยาลัยฯ ใช้ ประกอบด้วย

  1. ฐานการปฏิบัติตามสัญญา เพื่อการปฏิบัติตามสัญญา โดยมหาวิทยาลัยฯ สามารถปฏิบัติหน้าที่ให้บริการฝึกอบรมหรือสัมมนาตามสัญญา โดยถือว่าผู้สมัครเข้ารับการอบรมหรือเข้าร่วมสัมมนาหรือเข้าร่วมกิจกรรม ตกลงเข้าร่วมการพิจารณาเข้ารับการฝึกอบรมหรือสัมมนาหรือเข้าร่วมกิจกรรมและเข้ารับบริการการฝึกอบรมหรือสัมมนาหรือกิจกรรมนั้น
  2. ฐานความยินยอม เพื่อการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในการให้ข้อมูลประชาสัมพันธ์กิจกรรมต่าง ๆ ของทางมหาวิทยาลัยฯ ในอนาคต

หากท่านเป็นผู้เยาว์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ก่อนการให้ความยินยอมโปรดแจ้งรายละเอียดผู้ใช้อำนาจปกครองให้มหาวิทยาลัยฯ ทราบ เพื่อให้มหาวิทยาลัยฯ สามารถดำเนินการขอความยินยอมจากผู้ใช้อำนาจปกครองด้วย

7.การรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล

          มหาวิทยาลัยฯ มีมาตรการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล โดยการจำกัดสิทธิ์การเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลให้สามารถเข้าถึงได้โดยเจ้าหน้าที่เฉพาะรายหรือบุคคลที่มีอำนาจหน้าที่หรือได้รับมอบหมายที่มีความจำเป็นต้องใช้ข้อมูลดังกล่าวตามวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไว้แล้วเท่านั้น ซึ่งบุคคลดังกล่าวจะต้องยึดมั่นและปฏิบัติตามมาตรการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของวิทยาลัยอย่างเคร่งครัด ตลอดจนมีหน้าที่รักษาความลับของข้อมูลส่วนบุคคลที่ตนเองรับรู้จากการปฏิบัติการตามอำนาจหน้าที่

นอกจากนี้ เมื่อมหาวิทยาลัยฯ มีการส่ง โอนหรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลแก่บุคคลที่สาม ไม่ว่าเพื่อการให้บริการตามพันธกิจ ตามสัญญา หรือข้อตกลงในรูปแบบอื่น มหาวิทยาลัยฯ จะกำหนดมาตรการรักษาความปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคลและการรักษาความลับที่เหมาะสมและเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด เพื่อยืนยันว่าข้อมูลส่วนบุคคลที่มหาวิทยาลัยฯ เก็บรวบรวมจะมีความมั่นคงปลอดภัยอยู่เสมอ

      โดยตัวอย่างมาตรการและการจัดการด้านความมั่นคงปลอดภัยในการปกป้องดูแลข้อมูลส่วนบุคคลที่มหาวิทยาลัยฯ มีการนำมาใช้ เช่น

  • กำหนดมาตรการป้องกันทางกายภาพ และการจำกัดการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลไว้เฉพาะพนักงานของ มหาวิทยาลัยฯ ที่มีหน้าที่และความจำเป็นต้องเข้าถึงข้อมูลนั้น ๆ (Need to Know Basis)
  • กำหนดมาตรการป้องกันการเข้าถึงระบบและข้อมูล เช่น การใช้รหัสผ่านเพื่อเข้าสู่ระบบการให้บริการ เป็นต้น เพื่อป้องกันมิให้ผู้ที่ไม่มีสิทธิเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
  • กำหนดกระบวนการทำงานในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และการรับมือกับปัญหา หรือเหตุอันน่าสงสัยว่าจะมีการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล โดยหากเกิดเหตุดังกล่าว มหาวิทยาลัยฯ จะรีบแจ้งท่านทราบโดยเร็ว รวมถึงแจ้งเจ้าหน้าที่รัฐที่ดูแลเรื่องนี้ ตามที่กฎหมาย
  • ทบทวนกระบวนการทำงานในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามระยะเวลาที่กำหนด เพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการทำงานเป็นไปอย่างเหมาะสมและสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน
  • ตรวจสอบ ทดสอบระบบที่มีการจัดเก็บหรือประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อให้มั่นใจว่าระบบหรือ เทคโนโลยีที่ใช้มีความมั่นคงปลอดภัย และมีการปรับปรุงและติดตั้งซอฟต์แวร์การจัดการ ด้านการรักษาความมั่นคงปลอดภัยที่มีมาตรฐานอย่างดี

      หากท่านต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการรักษาความมั่นคงปลอดภัยในระบบสารสนเทศ ท่านสามารถศึกษาได้จาก “นโยบายและแนวปฏิบัติการรักษาความมั่นคงปลอดภัยสารสนเทศ” ของมหาวิทยาลัยฯ

 

8. ระยะเวลาการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล

          มหาวิทยาลัยฯ จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ตราบเท่าที่ข้อมูลนั้นยังมีความจำเป็นตามวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเท่านั้น โดย

  1. เก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของผู้สมัครเข้ารับการอบรมหรือร่วมสัมมนา เป็นระยะเวลา 6 เดือนหลังการพิจารณารับการฝึกอบรมหรือสัมมนาหรือร่วมกิจกรรม
  2. เก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เข้ารับการอบรมหรือร่วมสัมมนาหรือเข้าร่วมกิจกรรม เป็นระยะเวลา 1 ปีหลังสิ้นสุดการรฝึกอบรมหรือสัมมนาหรือร่วมกิจรรม
  3. ในกรณีที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ยินยอมรับข้อมูลข่าวสาร และข้อมูลประชาสัมพันธ์กิจกรรมต่าง ๆ ของทางมหาวิทยาลัยฯ ในอนาคต มหาวิทยาลัยฯ จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลไว้เป็นระยะเวลา 10 ปี

ซึ่งรวมถึงข้อกำหนดในกระบวนการทางกฎหมาย บัญชี และการรายงาน ทั้งนี้ เมื่อพ้นระยะเวลาและข้อมูลส่วนบุคคลของท่านสิ้นความจำเป็นตามวัตถุประสงค์ดังกล่าวแล้ว มหาวิทยาลัยฯ จะทำการลบ ทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไม่สามารถระบุตัวตนได้ต่อไป ตามรูปแบบและมาตรฐานการลบ ทำลายข้อมูลส่วนบุคคลที่คณะกรรมการหรือกฎหมายจะได้ประกาศกำหนดหรือตามมาตรฐานสากล อย่างไรก็ดี ในกรณีที่มีข้อพิพาท การใช้สิทธิหรือคดีความอันเกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน มหาวิทยาลัยฯ ขอสงวนสิทธิในการเก็บรักษาข้อมูลนั้นต่อไปจนกว่าข้อพิพาทนั้นจะได้มีคำสั่งหรือคำพิพากษาถึงที่สุด

         

9. การเปิดเผยถ่ายโอนข้อมูลส่วนบุคคล

ประเภทบุคคลที่มหาวิทยาลัยฯ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

ภายใต้วัตถุประสงค์ที่ได้ระบุไว้ในหัวข้อที่ 3 ข้างต้น มหาวิทยาลัยฯ อาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บุคคลดังต่อไปนี้

          ประเภทบุคคลผู้รับข้อมูล

รายละเอียดและตัวอย่าง

หน่วยงานของรัฐหรือเอกชน ผู้สนับสนุนทุนช่วยเหลือหรือทุนอุดหนุน

สำหรับโครงการฝึกอบรมหรือสัมมนาหรือกิจกรรมที่ได้รับทุนสนับสนุน ทุนช่วยเหลือ หรือทุนอุดหนุน มหาวิทยาลัยฯ อาจต้องนำส่งข้อมูลของผู้เข้ารับการฝึกอบรมให้แก่หน่วยงานผู้สนับสนุน ตามเงื่อนไขโครงการฝึกอบรมหรือสัมมนาหรือกิจกรรม

การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศ

ในบางกรณีมหาวิทยาลัยฯ อาจจำเป็นต้องส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศเพื่อดำเนินการตามวัตถุประสงค์ในการให้บริการแก่ท่าน เช่น เพื่อส่งข้อมูลส่วนบุคคลไปยังระบบคลาวด์ (Cloud) ที่มีแพลตฟอร์มหรือเครื่องแม่ข่าย (Server) อยู่ต่างประเทศ (เช่น ประเทศสิงคโปร์ หรือสหรัฐอเมริกา เป็นต้น) เพื่อสนับสนุนระบบเทคโนโลยีสารสนเทศที่ตั้งอยู่นอกประเทศไทย

นอกเหนือจากกรณีข้างต้น ทางมหาวิทยาลัยฯ จะไม่เผยแพร่ จำหน่าย จ่าย แจก แลกเปลี่ยน โอนหรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่มหาวิทยาลัยฯ ได้เก็บรวบรวมไว้ให้แก่บุคคลภายนอก เว้นแต่ เป็นการดำเนินการตามกำหนดในประกาศนี้ หรือเมื่อได้รับการร้องขอหรือได้รับความยินยอมจากท่าน หรือภายใต้บางสถานการณ์ตามกฎหมาย ดังนี้

  • กรณีที่มหาวิทยาลัยฯ เชื่อโดยสุจริตว่าเป็นข้อบังคับทางกฎหมาย หรือเป็นการปฏิบัติ ตามคำสั่งของเจ้าหน้าที่รัฐ ที่มีอำนาจโดยชอบด้วยกฎหมาย หรือเป็นการดำเนินการตามหมายศาล คำสั่งศาล หรือกระบวนการยุติธรรม
  • เป็นการแบ่งปันข้อมูลกับหน่วยงานอื่นที่เชื่อถือได้ ซึ่งทำงานในนามหรือทำงานให้มหาวิทยาลัยฯ ภายใต้ข้อตกลงหรือสัญญาที่ให้มั่นใจว่าหน่วยงานดังกล่าวจะมีการปฏิบัติตามข้อกำหนดของกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเช่นเดียวกับมหาวิทยาลัยฯ  โดยการแบ่งปันข้อมูลดังกล่าวอาจมีทั้งกรณีการจัดเก็บข้อมูล และการใช้ข้อมูลเพื่อส่งมอบบริการแก่ท่าน หรือเพื่อการดำเนินโครงการหรือกิจกรรมของมหาวิทยาลัยฯ  เช่น การสำรวจและวิเคราะห์ข้อมูล การประชาสัมพันธ์ เป็นต้น
  • กรณีที่มหาวิทยาลัยฯ เชื่อโดยสุจริตและมีเหตุผลที่จำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่มหาวิทยาลัยฯ เห็นว่าสำคัญยิ่งกว่าการปกป้องความเป็นส่วนตัวของท่าน และเป็นการปฏิบัติตามกฎหมาย ได้แก่
    • เพื่อการสืบสวน สอบสวน และระงับเหตุอาชญากรรม การทุจริต การฉ้อโกง หรือ
    • เพื่อป้องกันหรือรับมือกับภัยคุกคามตลอดจนการกระทำที่อาจสร้างความเสียหายต่อสิทธิ ทรัพย์สิน หรือความปลอดภัยของสาธารณะ รวมถึงของมหาวิทยาลัยฯ และผู้ที่เกี่ยวข้อง หรือ
    • เพื่อป้องกันหรือรับมือการกระทำที่ละเมิดต่อข้อตกลงการใช้บริการของมหาวิทยาลัยฯ  หรือต่อกฎหมาย

          ในกรณีที่มหาวิทยาลัยฯ มีความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยทางกายภาพของท่าน หรือเห็นว่ามหาวิทยาลัยฯ ต้องดำเนินการบางอย่างเพื่อปกป้องท่านจากภัยคุกคามหรือการกระทำใด ๆ ที่อาจทำให้ท่านเสียหาย มหาวิทยาลัยฯ จะหารือกับท่านและในสถานการณ์ที่กระทำได้ มหาวิทยาลัยฯ จะขออนุญาตท่านใน การแจ้งสถานการณ์ที่ท่านประสบอยู่กับบุคคลอื่นที่จำเป็นต้องทราบก่อนการดำเนินการนั้น

      หากมีกรณีดังกล่าวข้างต้นเกิดขึ้น มหาวิทยาลัยฯ จะบันทึกการดำเนินการนั้นไว้เป็นหลักฐานว่า ข้อมูลใดที่มหาวิทยาลัยฯ ได้เปิดเผยภายใต้เหตุผลและสถานการณ์ใด เพื่อท่านสามารถตรวจสอบและทราบได้ว่า มหาวิทยาลัยฯ ได้มีการดำเนินการอะไรไปเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

9. สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

          พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ได้กำหนดสิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไว้หลายประการ ทั้งนี้ สิทธิดังกล่าวจะเริ่มมีผลบังคับใช้เมื่อกฎหมายในส่วนของสิทธินี้มีผลใช้บังคับ โดยรายละเอียดของสิทธิต่าง ๆ ประกอบด้วย

  • สิทธิการได้รับแจ้ง มหาวิทยาลัยฯ จะมีการแจ้ง “คำประกาศความเป็นส่วนตัว (Privacy Notice)” ที่มีรายละเอียดวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยที่ชัดเจนให้เจ้าของข้อมูลทราบ
  • สิทธิในการเพิกถอนความยินยอม ในกรณีที่มหาวิทยาลัยฯ ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยใช้ฐานความยินยอม ท่านสามารถขอเพิกถอนความยินยอมในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านทั้งหมดหรือบางส่วนของข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่เคยให้มหาวิทยาลัยฯ ไว้เมื่อใดก็ได้ เว้นแต่กฎหมายจะกำหนดไว้เป็นอย่างอื่น ทั้งนี้ การถอนความยินยอมดังกล่าวของท่านนั้น จะไม่กระทบต่อการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมโดยชอบด้วยกฎหมายก่อนการถอนความยินยอมดังกล่าว หากท่านเพิกถอนความยินยอมการที่ท่านยินยอมให้มหาวิทยาลัยฯ เก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน อาจส่งผลให้ท่านเสียประโยชน์ในการใช้บริการของมหาวิทยาลัยฯ ในระดับเดียวกับกรณีที่ท่านให้ความยินยอมในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลต่อมหาวิทยาลัยฯ
  • สิทธิการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิที่จะขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่อยู่ในความครอบครองของมหาวิทยาลัยฯ หรือขอให้เปิดเผยถึงการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีที่ท่านมิได้ให้ความยินยอม ในกรณีที่มหาวิทยาลัยฯ มิอาจปฏิเสธการดำเนินการตามคำขอของท่านได้วิทยาลัย จะดำเนินการตามคำขอของท่านโดยมิชักช้า และไม่เกิน 30 (สามสิบ) วันนับจากที่ได้รับคำขอ
  • สิทธิในการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง ท่านมีสามารถขอให้มหาวิทยาลัยฯ ดำเนินการปรับปรุงแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่ถูกต้องได้ เพื่อให้ข้อมูลดังกล่าวมีความถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด ทั้งนี้วิทยาลัย อาจขอเอกสารหลักฐานจากท่านเพื่อยืนยัน และตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลที่ท่านได้ให้ไว้ หรือที่จะให้ทำการแก้ไข ปรับปรุง เปลี่ยนแปลง ท่านสามารถขอ
  • สิทธิในการลบข้อมูลส่วนบุคคล ท่านสามารถขอให้มหาวิทยาลัยฯ ดำเนินการลบ หรือทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ในกรณีดังนี้ (ก.) เมื่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่านหมดความจพเป็นต่อวัตถุประสงค์ของการประมวลผล หรือ (ข) เมื่อท่านได้ถอนความยินยอมในการประมวลผล และมหาวิทยาลัยฯ ไม่มีอำนาจตามกฎหมายที่จะทำการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวได้ต่อไป หรือ (ค.) เมื่อท่านได้คัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล หรือ (ง.) เมื่อการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นไปโดยมิชอบด้วยกฎหมาย
  • สิทธิในการห้ามมิให้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสามารถขอให้มหาวิทยาลัยฯ ระงับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ในกรณีดังนี้ (1) เมื่ออยู่ในระหว่างการตรวจสอบของท่านซึ่งร้องขอให้ดำเนินการให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด หรือ (2) เมื่อเป็นข้อมูลที่ต้องถูกลบ หรือทำลายแต่ท่านขอให้ระงับการใช้แทน หรือ (3) เมื่อข้อมูลส่วนบุคคลหมดความจำเป็นในการเก็บรักษาไว้ตามวัตถุประสงค์ของการประมวลผล แต่ท่านมีความจำเป็นต้องขอให้เก็บรักษาไว้เพื่อใช้ในการก่อตั้งสิทธิเรียกร้อง การปฏิบัติตาม การใช้สิทธิเรียกร้อง หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือ (4) เมื่ออยู่ในระหว่างการตรวจสอบคำขอใช้สิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
  • สิทธิในการให้โอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคล ในกรณีที่ระบบข้อมูลของมหาวิทยาลัยฯ รองรับการอ่านหรือใช้งานโดยทั่วไปด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานอัตโนมัติ และสามารถใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ ท่านสามารถขอรับ สำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ รวมถึงขอให้มหาวิทยาลัยฯ ดำเนินการส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลรายอื่นได้ และขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่มีการส่งหรือโอนดังกล่าวได้ ทั้งนี้ เฉพาะแต่ข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้ถูกเก็บรวบรวมโดยใช้ฐานความยินยอม หรือฐานการปฏิบัติตามสัญญา หรือตามที่กฎหมายประกาศกำหนดเท่านั้น
  • สิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ท่านสามารถขอคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของตนเมื่อใดก็ได้ในกรณีตามที่กฎหมายได้กำหนดไว้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์ด้านการตลาดแบบตรง

          ทั้งนี้ ในกรณีที่คำร้องขอใช้สิทธิของบุคคลภายนอกมีความซับซ้อน หรือมีการทำสำเนาจำนวนมาก มหาวิทยาลัยฯ จะพิจารณาเก็บค่าธรรมเนียมตามความเหมาะสม โดยมหาวิทยาลัยฯ จะพิจารณาและแจ้งผล การพิจารณาตามคำร้องของผู้สมัครงานภายใน 30 วันนับแต่วันที่มหาวิทยาลัยฯ ได้รับคำร้องขอดังกล่าว รวมถึงมหาวิทยาลัยฯ มีสิทธิที่จะปฏิเสธคำร้องดังกล่าวตามความเหมาะสม

10. การร้องเรียนต่อหน่วยงานผู้มีอำนาจกำกับดูแล

ในกรณีที่ท่านพบว่า มหาวิทยาลัยฯ มิได้ปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลท่านมีสิทธิร้องเรียนไปยังคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือหน่วยงานที่มีอำนาจกำกับดูแลที่ได้รับการแต่งตั้งโดยคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลหรือตามกฎหมาย ทั้งนี้ ก่อนการร้องเรียนดังกล่าว มหาวิทยาลัยฯ ขอให้ท่านโปรดติดต่อมายังมหาวิทยาลัยฯ เพื่อให้มหาวิทยาลัยฯ มีโอกาสได้รับทราบข้อเท็จจริงและได้ชี้แจงในประเด็นต่าง ๆ รวมถึงจัดการแก้ไขข้อกังวลของท่านก่อนในโอกาสแรก

11. การแก้ไขเปลี่ยนแปลง และปรับปรุงคำประกาศความเป็นส่วนตัว

มหาวิทยาลัยฯ สงวนสิทธิ์ในการเพิ่มเติม แก้ไข เปลี่ยนแปลง หรือปรับปรุงคำประกาศความเป็นส่วนตัว (Privacy Notice) ฉบับนี้เมื่อใดก็ตามที่มหาวิทยาลัยฯ พิจารณาว่าจำเป็น หรือเป็นไปตามที่กฎหมายข้อมูลส่วนบุคคล หรือกฎหมายที่ใช้บังคับได้กำหนดไว้ อย่างไรก็ตาม หากวิทยาลัยจะทำการเพิ่มเติม แก้ไข เปลี่ยนแปลง หรือปรับปรุงคำประกาศความเป็นส่วนตัวนี้ มหาวิทยาลัยฯ จะดำเนินการตามที่กฎหมายข้อมูลส่วนบุคคลกำหนดไว้

12. การติดต่อกับมหาวิทยาลัยฯ

          หากท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลประสงค์ที่จะใช้สิทธิใด ๆ หรือมีปัญหาข้อสงสัยเกี่ยวกับการเก็บรวมรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โปรดติดต่อเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์

ที่อยู่ : 110/1-4 ถนนประชาชื่น หลักสี่ กทม. 10210

โทรศัพท์ : 02-954-7300 โทรสาร 02-589-9605

อีเมล : [email protected]