สรุปโครงการของสถาบันขงจื่อเส้นทางสายไหมทางทะเล
จะดำเนินการระหว่าง มกราคม 2559 - ธันวาคม 2559
เสนอต่อ
สถาบันขงจื่อ กองทุนสำนักงานใหญ่

                เพื่อเป็นการสนับสนุนนโยบายของ ฯพณฯ สีจิ้นผิง ประธานาธิบดีสาธารณรัฐประชาชนจีนตามโครงการ “One Belt One Road” ซึ่งมีวัตถุประสงค์ที่จะส่งเสริม การร่วมมือในการพัฒนาประเทศตามเส้นทางสายไหมทางเศรษฐกิจและเส้นทางสายไหมทางทะเลแบบได้ประโยชน์ทั้งสองฝ่าย และก่อให้เกิดความเข้าใจเชื่อถือซึ่งกันและกัน เพื่อนำไปสู่มิตรภาพและความร่วมมือในทุกๆ ด้าน ดังนั้นสถาบันขงจื่อเส้นทางสายไหมทางทะเล จึงได้จัดทำโครงการพัฒนาบุคลากรของประเทศไทยและในภูมิภาคอาเซียนทุกระดับและทุกภาคส่วน โดยขอเสนอโครงการดังต่อไปนี้

1. การพัฒนาตำราเรียน


ในข้อเท็จจริงแล้วได้มีการจัดทำตำราเรียนภาษาจีนในประเทศไทยมาเป็นระยะเวลานานกว่า 5 ปีแล้ว แต่เมื่อนำตำราเรียนดังกล่าวมาใช้ในการสอน ปรากฏว่ายังไม่สอดคล้องกับขนบธรรมเนียมประเพณีของไทยในบางเรื่อง ดังนั้นจึงมีนโยบายที่จะจัดทำตำราเรียนดังกล่าวให้เป็นมาตรฐานเหมาะสมและสอดคล้องกับหลักสูตร สามารถนำมาใช้ได้ในทุกระดับชั้นและทั่วประเทศไทย ซึ่งมีแนวทางดำเนินการคือ

  1. นำตำราเรียนภาษาจีนที่มีอยู่แล้วมาพัฒนา
  2. เชิญผู้บริหารจากมหาวิทยาลัยทั้ง 2 ประเทศและจากกระทรวงศึกษาธิการเข้ามาร่วมในการจัดทำด้วย

ทั้งนี้ได้กำหนดให้แล้วเสร็จภายในรัฐบาลชุดปัจจุบันนี้

2. การส่งเสริมการเรียนการสอนในระดับอาชีวศึกษา


สำนักงาน Hanban และสถาบันขงจื่อเส้นทางสายไหมทางทะเลได้มีความเห็นร่วมกันว่าในปัจจุบันนี้ประเทศไทยขาดแคลนบุคลากรในระดับอาชีวะ ทำให้การพัฒนาประเทศในบางเรื่องไม่สามารถสำเร็จลุล่วงไปได้อย่างรวดเร็ว ดังนั้นจึงจะต้องจัดทำโครงการสนับสนุนการศึกษาด้านอาชีวะให้อย่างกว้างขวาง ซึ่งที่ผ่านมาได้ดำเนินการไปบ้างแล้ว ได้แก่ การจัดหาทุนให้นักศึกษาอาชีวะจากประเทศไทยไปศึกษา ณ วิทยาลัยอาชีวะในนครเทียนจินมาประมาณ 1 ปีกว่าแล้ว ขณะนี้อยู่ในระหว่างการศึกษาต่อเนื่อง ดังนั้นจึงมีแนวทางในการดำเนินการคือ

  1. จัดหาทุนการศึกษาจำนวนมากให้แก่นักศึกษาที่มีความรู้ความสามารถและสามารถสอบผ่านการวัดผล HSK ได้ในระดับที่กำหนดไว้
  2. จัดหาทุนให้ครูอาชีวะจากประเทศไทยได้มีโอกาสไปศึกษาเรียนรู้ที่สาธารณรัฐประชาชนจีนเพื่อให้ครูอาชีวะได้มีโอกาสเพิ่มพูนด้านความรู้ความสามารถและนำมาถ่ายทอดเทคโนโลยีใหม่ๆ ให้แก่นักศึกษาในการนำไปประกอบอาชีพเมื่อสำเร็จการศึกษาต่อไป
  3. ขอให้สำนักงาน Hanban พิจารณาจัดหาครูอาสาสมัครอาชีวะมาสอนในประเทศไทยเป็นแห่งแรกของโลกด้วย

ซึ่งในเรื่องนี้จะสอดคล้องกับคำกล่าวของ Dr. Xu Lin ผู้อำนวยการสำนักงานใหญ่ Hanban ได้กล่าวไว้เมื่อครั้งเดินทางมาเป็นประธานในพิธีมอบป้ายสถาบันขงจื่อเส้นทางสายไหมทางทะเล เมื่อวันพุธที่ 24 มิถุนายน 2558 ณ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์

3. การส่งเสริมการเรียนการสอนในระดับอุดมศึกษา


สถาบันขงจื่อเส้นทางสายไหมทางทะเล พิจารณาแล้วเห็นว่ามหาวิทยาลัยควรจะต้องเป็นแหล่งในการผลิตครู-อาจารย์ภาษาจีนแก่สถาบันการศึกษาทั่วประเทศ เพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนอาจารย์สอนภาษาจีน ดังนั้นจึงจะต้องหาแนวทางในการกำหนดมาตรฐานการเรียนการสอนภาษาจีนในระดับมหาวิทยาลัย โดยใช้มาตรฐานเดียวกัน ซึ่งนอกจากจะต้องพัฒนาตำราเรียนพัฒนาทักษะการพูดให้แข็งแรง จะต้องกำหนดให้ครูอาสาสมัครสามารถสอนเพิ่มเติมในวิชาการล่าม วิชาภาษาจีนภาคบริการและอื่นๆ เพื่อให้สอดคล้องกับความเจริญทางเติบโตทางเศรษฐกิจในปัจจุบันซึ่งมีแนวทางในการดำเนินการคือ

  1. จัดการฝึกอบรมครู-อาจารย์สอนภาษาจีนให้มีความรู้ความสามารถเป็นมาตรฐานเดียวกัน
  2. จัดหาทุนการศึกษาระยะสั้น-ระยะยาวให้ครู-อาจารย์ได้มีโอกาสไปเรียนรู้และฝึกอบรมการใช้ภาษาจีนที่ถูกต้อง ตลอดจนวัฒนธรรมจีน ณ สาธารณรัฐประชาชนจีน
  3. จัดฝึกอบรมครูอาสาสมัครให้มีความรู้ความสามารถในการสอนเพิ่มเติมในสาขาวิชาอื่นๆ ด้วย เช่น วิชาการล่าม วิชาภาษาจีนภาคบริการ เป็นต้น ซึ่งจะเป็นผลให้นักศึกษาสามารถนำไปใช้ในการประกอบอาชีพได้เมื่อสำเร็จการศึกษาต่อไป

4. การส่งเสริมการท่องเที่ยว


ตลอดระยะเวลา 40 ปีที่ผ่านมา ความสัมพันธ์จีนไทยได้พัฒนาไปอย่างแข็งแรงและมีเสถียรภาพซึ่งสามารถสรุปไว้ว่าความสำเร็จดังกล่าวเกิดจาก
        - ความไว้เนื้อเชื่อใจซึ่งกันและกัน มั่นคงและหนักแน่นยิ่งขึ้น
        - ผลประโยชน์ร่วมกันกว้างขวางยิ่งขึ้น
        - ความร่วมมือที่เป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น
        - สายสัมพันธ์ทางวัฒนธรรมและสังคมเหนียวแน่นยิ่งขึ้น
         (คำกล่าวของ ฯพณฯ หนิง ฟู่ขุย เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย)

ซึ่งปัจจุบันนี้ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีนักท่องเที่ยวจากสาธารณรัฐประชาชนจีนมากที่สุด คือประมาณ 7,000,000 คนในปีที่ผ่านมา (พ.ศ.2558) ดังนั้นจึงมีนโยบายที่จะพัฒนาบุคลากรด้านการท่องเที่ยวของไทยให้มีความรู้ความสามารถในด้านภาษาและวัฒนธรรมจีนให้เป็นมาตรฐานสากล โดยจะมีแนวทางดำเนินการเป็น 2 ระดับ คือ

  1. ระดับนักศึกษา จะส่งเสริมให้นักศึกษาซึ่งเรียนในสาขาการท่องเที่ยวทั้งในระดับอุดมศึกษาและระดับอาชีวศึกษาได้มีความรู้ความสามารถในการเรียนรู้ขนบธรรมเนียมประเพณีของทั้ง 2 ประเทศอย่างทัดเทียมกันโดยเฉพาะอย่างยิ่ง คือ การใช้ภาษาจีนอย่างถูกต้องและเหมาะสม และความเข้าใจในความต้องการของนักท่องเที่ยวชาวจีนในแต่ละมณฑลซึ่งแตกต่างกัน
  2. ระดับมัคคุเทศก์ จะส่งเสริมให้มัคคุเทศก์ได้เข้าอบรมในหลักสูตรที่เหมาะสมเพื่อความเข้าใจในด้านภาษาและวัฒนธรรมจีนให้มากขึ้น ตลอดจนความต้องการของนักท่องเที่ยวชาวจีน

5. การส่งเสริมการเรียนการสอนในระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษา


นอกจากการจะพัฒนาด้านตำราเรียนตามที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้น สถาบันขงจื่อเส้นทางสายไหมทางทะเลจะมีโครงการพัฒนาครูผู้สอนอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นจึงมีแนวทางในการดำเนินการ คือ

  1. จัดหาทุนฝึกอบรมเทคนิคการสอน ความรู้ด้านภาษาและวัฒนธรรมจีน ทั้งในประเทศไทยและสาธารณรัฐประชาชนจีน
  2. ขอรับการสนับสนุนครูอาสาสมัครชาวจีนที่มีคุณภาพโดยสถาบันขงจื่อเส้นทางสายไหมทางทะเลขอเข้าไปมีส่วนร่วมในการจัดฝึกอบรมครูอาสาสมัครเพื่อให้รู้ภาษาและวัฒนธรรมไทยมากกว่าที่ผ่านมา
  3. จัดหาทุนการศึกษาให้กับครูและนักเรียนที่มีผลงานดีสำหรับศึกษาต่อในประเทศไทยหรือสาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจสำหรับผู้สอนและผู้เรียนภาษาจีน

6. การจัดฝึกอบรมครูอาสาสมัครชาวจีน


สถาบันขงจื่อเส้นทางสายไหมทางทะเล พิจารณาเห็นครูอาสาสมัครบางคนยังขาดประสบการณ์ในการสอนและความเข้าใจในขนบธรรมเนียมประเพณีของคนไทย ซึ่งในแต่ละภาคก็มีความแตกต่างกัน ดังนั้นจึงขอเสนอเป็นสถาบันรับผิดชอบในการจัดฝึกอบรมครูอาสาสมัครชาวจีนทั้งหมดก่อนที่จะลงมือปฏิบัติงาน ซึ่งน่าจะใช้เวลาประมาณ 1 เดือนเพื่อให้สามารถเข้าใจและใช้ภาษาไทยในการสอนภาษาจีน ตลอดจนขนบธรรมเนียมประเพณีและวัฒนธรรมไทยซึ่งแตกต่างกันบางประการในแต่ละภูมิภาค ทั้งนี้เนื่องจากนักเรียนบางคนไม่สามารถพูดภาษาจีนได้ในระยะแรก จึงทำให้การเรียนการสอนเป็นไปอย่างล่าช้า

7. การจัดฝึกอบรมภาษาจีนแก่ข้าราชการต่างๆ


ด้วยในปัจจุบันนี้การใช้ภาษาจีนเป็นที่แพร่หลายและบางส่วนราชการก็ได้มีการใช้ภาษาจีนในการปฏิบัติงาน ซึ่งได้มีการขอให้พระพรหมมังคลาจารย์จัดหาครูไปสอนภาษาจีนให้ เช่น สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ กรมการแพทย์ทหารบก เป็นต้น ดังนั้นเพื่อให้การสอนภาษาและวัฒนธรรมจีนแก่ข้าราชการเป็นไปด้วยความต่อเนื่อง จึงมีแนวทางในการดำเนินการคือ

  1. จัดทำหลักสูตรเฉพาะเพื่อให้บริการแก่ส่วนราชการต่างๆ อันจะทำให้การประสานงานระหว่าง 2 ประเทศเป็นไปด้วยความสะดวกเรียบร้อย
  2. จัดหาทุนการฝึกอบรมให้แก่ข้าราชการที่ผ่านการทดสอบความสามารถในการใช้ภาษาจีนในระดับหนึ่ง ได้มีโอกาสเดินทางไปเรียนรู้และฝึกอบรมการใช้ภาษาจีนและวัฒนธรรมจีน ณ สาธารณรัฐประชาชนจีน

8. การให้บริการแก่สถาบันขงจื่อเส้นทางสายไหมทางทะเลสาขา


ปัจจุบันนี้ได้มีสถาบันการศึกษาและส่วนราชการต่างๆ แสดงความจำนงจะขอเข้าร่วมเป็นสาขาของสถาบันขงจื่อเส้นทางสายไหมทางทะเล ดังนั้นสิ่งที่จะต้องทำเป็นโครงการเร่งด่วนคือ

  1. จัดประชุมสถาบันการศึกษาและส่วนราชการดังกล่าวเพื่อแจ้งให้ทราบถึงนโยบาย
  2. ชี้แจงแนวทางของสถาบันขงจื่อเส้นทางสายไหมทางทะเล จัดทำแผนงานเพื่อขอรับการสนับสนุนงบประมาณทั้งในด้านการเรียนการสอน การฝึกอบรม และการขอรับการสนับสนุนครูอาสาสมัครต่อไป

9. การขยายสถาบันขงจื่อเส้นทางสายไหมทางทะเลสู่อาเซียน


ตามที่ขณะนี้ได้มีมหาวิทยาลัยนอร์ทเทิร์น ฟิลิปปินส์ ได้แสดงเจตจำนงชัดเจนว่าจะเข้าร่วมเป็นสาขา (เครือข่าย) ของสถาบันขงจื่อเส้นทางสายไหมทางทะเลแล้วนั้น เพื่อการขยายการสอนภาษาและวัฒนธรรมจีนไปสู่ประเทศในภูมิภาคอาเซียนที่ยังไม่มีสถาบันขงจื่อ ซึ่งจะสอดคล้องกับแผนปฏิบัติการในการพัฒนาสถาบันขงจื่อปี 2016-2020 ที่จะสนับสนุนส่งเสริมให้มีการศึกษาภาษาจีนในมหาวิทยาลัยทั่วโลก จึงมีแนวทางในการดำเนินงานคือ

  1. ประสานงานและเดินทางไปพบกับสถาบันการศึกษาในประเทศเวียดนาม มาเลเซีย และสหภาพเมียนมาร์ เพื่อชี้แจงให้ทราบถึงนโยบายแนวทางดำเนินงานของสถาบันขงจื่อเส้นทางสายไหมทางทะเล
  2. ขอให้สถาบันการศึกษาในประเทศดังกล่าวจัดทำแผนงานเพื่อขอรับการสนับสนุนงบประมาณทั้งในด้านการเรียนการสอน การฝึกอบรมและการขอรับการสนับสนุน ครูอาสาสมัครต่อไป

10. การเป็นสถาบันจัดการสอบ HSK


สถาบันขงจื่อเส้นทางสายไหมทางทะเล มีความประสงค์จะขอเป็นผู้แทนในการจัดสอบ HSK ด้วยอีกแห่งหนึ่ง โดยพิจารณาเห็นว่าอาจารย์ นักเรียน และผู้ประสงค์จะขอรับทุนไปศึกษาต่อที่สาธารณรัฐประชาชนจีน ควรจะต้องผ่านการทดสอบ HSK ในระดับที่เหมาะสม ดังนั้นหากสถาบัน Hanban พิจารณาเห็นชอบในแนวคิดดังกล่าวจะทำให้การส่งเสริมการเรียนภาษาจีนและวัฒนธรรมจีนเป็นระบบมากยิ่งขึ้น

11. โครงการจัดแข่งขันภาษาจีนเพชรยอดมงกุฎ


เพื่อเป็นการส่งเสริมให้การเรียนการสอนภาษาจีนในประเทศไทยและในภูมิภาคอาเซียนได้เป็นที่แพร่หลายไปอย่างรวดเร็ว จึงได้กำหนดจัดเวทีให้ผู้สนใจการเรียนภาษาจีนในทุกระดับได้เข้าร่วมการแข่งขัน ซึ่งได้จัดต่อเนื่องมาเป็นระยะเวลา 11 ปีแล้ว ในแต่ละปีจะมีนักเรียนนักศึกษาเข้าร่วมแข่งขันเป็นจำนวนมากขึ้นตลอดมาโดยในครั้งที่ 11 มีผู้เข้าแข่งขันเกือบ 5,000 คน กิจกรรมนี้นอกจากจะเป็นการเปิดโอกาสให้มีการแข่งขันความสามารถในการใช้ภาษาจีนแล้ว ยังจะทำให้สามารถเป็นสะพานในการติดต่อกับนักเรียนทุกคนได้ตลอดไปจากการบันทึกชื่อและสถานที่อยู่ของผู้เข้าแข่งขันทุกคน ซึ่งได้กำหนดแนวทางดำเนินการไว้ ดังนี้

  1. จัดการแข่งขันภาษาจีนเพชรยอดมงกุฎ ครั้งที่ 12 (นานาชาติ) ในเดือนกันยายน 2559
  2. ขอรับพระราชทานถ้วยรางวัลจากสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชสยามมกุฎราชกุมารและจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี
  3. จัดหารางวัลมอบให้แก่ผู้ชนะการแข่งขัน
  4. จัดหาทุนการศึกษาในสาธารณรัฐประชาชนจีนแก่ผู้ชนะการแข่งขัน

12. โครงการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม


เพื่อให้การส่งเสริมความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างสาธารณรัฐประชาชนจีนและประเทศไทยได้อย่างแพร่หลายและรวดเร็วยิ่งขึ้น จึงเห็นควรจัดให้มีกิจกรรมที่กระชับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เช่น การแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม องค์ความรู้ของวัดเส้าหลิน และวัดม้าขาว ในเรื่องกังฟู และศิลปะการป้องกันตัวอื่นๆ กับศิลปะการป้องกันตัวของประเทศไทย เป็นต้น จึงได้กำหนดแนวทางในการดำเนินการดังนี้

  1. ขอรับทุนการเดินทางจากสำนักงาน Hanban สำหรับคณะนักแสดงศิลปวัฒนธรรมจากประเทศไทยไปแสดงในเทศกาลสำคัญของสาธารณรัฐประชาชนจีน
  2. ขอรับการสนับสนุนคณะนักแสดงจากสาธารณรัฐประชาชนจีนมาแสดงในประเทศไทยซึ่งโครงการดังกล่าวจะเป็นการตอบสนองนโยบายของ Dr. Xu Lin ผู้อำนวยการใหญ่สำนักงานฮั่นปั้น ซึ่งได้กล่าวไว้ในพิธีปิดการประชุมสถาบันขงจื่อโลก ครั้งที่ 10 เมื่อวันจันทร์ที่ 7 ธันวาคม 2558 ณ ศูนย์การประชุม Expo นครเซียงไฮ้

13. การจัดตั้งสมาคมศิษย์เก่าสถาบันขงจื่อ


สถาบันขงจื่อเส้นทางสายไหมทางทะเลจะดำเนินรวบรวมรายชื่อผู้ที่ได้รับทุนการศึกษาจากสถาบันขงจื่อสำนักงานใหญ่ ซึ่งในขณะนี้ได้มีรายชื่อดังกล่าวอยู่จำนวนหนึ่งแล้ว โดยจะจัดให้มีการประชุมในระหว่างสมาชิกเพื่อขอรับความเห็นจากการที่ได้รับทุนการศึกษาและนำความรู้ดังกล่าวไปใช้ประโยชน์ในด้านต่างๆ ตลอดจนข้อเสนอในการปรับปรุงทุนการศึกษาให้ก้าวหน้าต่อไป ซึ่งโครงการดังกล่าวจะเป็นการตอบสนองนโยบายของ Dr. Xu Lin ผู้อำนวยการใหญ่สำนักงานฮั่นปั้น ซึ่งได้กล่าวไว้ในพิธีปิดการประชุมสถาบันขงจื่อโลก ครั้งที่ 10 เมื่อวันจันทร์ที่ 7 ธันวาคม 2558 ณ ศูนย์การประชุม Expo นครเซียงไฮ้